ก. เกษตรฯ กำหนดรายได้ที่เป็นธรรมของเกษตรกร

กรุงเทพฯ 28 ก.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งให้ทุกหน่วยงานคำนวณหารายได้ที่เป็นธรรมของเกษตกรเพื่อจะวางแผนการผลิตของประเทศและส่งเสริมให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โดยจะต้องมีกำไรจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมไม่ต่ำกว่า 20-30%


นายกฤษฎา บุญราช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยขอให้ข้าราชการทุกหน่วยคำนวณและประเมินความพึงพอใจหรือหากำหนดเกณ์ที่เป็นธรรมของรายได้เกษตรกรไทยให้เห็นเป็นรูปธรรม
ดังเช่น การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท
หรือรายได้ขั้นต่ำของผู้เรียนจบปริญญาตรีไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท เป็นต้น
  โดยจากการใช้ปัจจัยทั้งทางเศรษฐศาสตร์และสังคมศาสตร์มาคำนวณได้ข้อสรุปเบื้องต้น
ดังนี้ 1. ในการประกอบอาชีพเกษตรกร ควรได้รับการดูแลโดยมีการประกันรายได้ขั้นต่ำ
ต้องมีกำไรไม่น้อยกว่า 20 – 30% 
ของค่าใช้จ่ายในการลงทุนทั้งนี้รวมค่าแรงของเกษตรกรด้วย 2.
เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต่าง ๆ
ของรัฐบาลและปฏิบัติตามแผนการผลิตของประเทศจะได้รับการคุ้มครองรายได้ขั้นต่ำ
อีกทั้งภาครัฐจะเพิ่มแรงจูงใจอื่น ๆ เช่น การส่งเสริมให้มีการออมระยะยาว
หรือการดูแลความเสี่ยงด้านชีวิต โดยภาครัฐสนับสนุนงบประมาณบางส่วน เป็นต้น

 
นายกฤษฎากล่าวว่า
การกำหนดรายได้ที่เป็นธรรมของเกษตรกรไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากความหลากหลายในการบริหารจัดการการเกษตร
และวิถีการครองชีพของเกษตรกร มีรายงานการวิจัยในสหรัฐอเมริกา พบว่า
ในกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสาลีซึ่งมีมากยังกำหนดราคาที่เป็นธรรมได้ยาก
เนื่องจากความหลากหลายของพื้นที่เพาะปลูก การบริหารจัดการการเพาะปลูก
และวิถีการครองชีพที่แตกต่างกัน
ดังนั้นสำหรับเกษตรกรไทยจึงเห็นสมควรให้จำแนกตามประเภทของเกษตรกรรม ได้แก่ 1. การประกอบอาชีพด้านการเพาะปลูกพืช
2. ด้านปศุสัตว์  และ 3. ด้านประมง 


 ตามนโยบายการทำเกษตรแผนใหม่นั้น
กระทรวงส่งเสริมการทำเกษตรในลักษณะรวมกลุ่มคือ
การทำเกษตรแปลงใหญ่และสหกรณ์การเกษตร โดยหน่วยงานต่างๆ
ทำหน้าที่พัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตทุกประเภท 
สนับสนุนการสร้าง
Smart farming และ Smart farmer  ตลอดจนการเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรซึ่งจะทำให้ได้ผลผลิตที่มีมาตรฐาน
ตรงตามความต้องการของตลาด 

ทั้งนี้ข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าวจะใช้ประกอบการหารือร่วมกับภาคเอกชน
นักวิชาการจากสถาบันอุดมศึกษาในการร่วมกันพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมและทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เป็นธรรมตามเป้าหมาย
 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องการวางแผนการผลิตภาคการเกษตรของประเทศโดยจะสำรวจความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศว่า
ต้องการผลผลิตทางการเกษตรทั้งด้านพืช ปศุสัตว์
และประมงเพื่อจะได้กำหนดปริมาณพื้นที่ผลิตให้เหมาะสมและเชื่อมโยงกลุ่มเกษตรกรกับผู้ซื้อตามนโยบายตลาดนำการผลิตซึ่งจะทำให้อาชีพเกษตรกรซึ่งเป็นอาชีพส่วนใหญ่ของคนไทยเป็นอาชีพที่มั่นคงต่อไปและสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย