นนทบุรี
27 ก.ค.กรมการค้าต่างประเทศเผยอียูยกเว้นมาตรการปกป้องชั่วคราวกับสินค้าเหล็กไทยทุกรายการ
เหตุเป็นประเทศกำลังพัฒนา มีสัดส่วนการนำเข้าไม่เกินร้อยละ 3 ทำให้เหล็กไทยไม่ถูกเรียกเก็บอากรการนำเข้าเพิ่มขึ้น
นายอดุลย์
โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ประกาศการใช้มาตรการปกป้องชั่วคราว
กับสินค้าเหล็กรวม 23 กลุ่มสินค้า เช่น เหล็กกล้าไร้สนิมแผ่นรีดเย็น และลวดเหล็ก
เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดกับอุตสาหกรรมภายในของสหภาพยุโรป
(อียู)
โดยไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากการใช้มาตรการชั่วคราวดังกล่าวในทุกรายการสินค้า
เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีปริมาณการนำเข้าไม่เกินร้อยละ 3
ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของอียู โดยมาตรการชั่วคราวดังกล่าวเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่
19 ก.ค.61 เป็นระยะเวลาไม่เกิน 200 วัน
” ขอให้ผู้ประกอบการไทยมีความระมัดระวังในเรื่องปริมาณการส่งออกสินค้าเหล็กไปอียู
เนื่องจากข้อมูลการนำเข้าของอียู พบว่าสินค้าเหล็กจากไทย 2 กลุ่มสินค้า
มีสัดส่วนการนำเข้าค่อนข้างสูง คือ เหล็กกล้าไร้สนิมแผ่นรีดเย็น และลวดเหล็ก
หากการนำเข้าเกิน ร้อยละ 3 อียูอาจกลับมาใช้มาตรการเซฟการ์ดเพื่อเรียกเก็บอากรกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยได้”นายอดุลย์กล่าว
นอกจากนี้
กระบวนการไต่สวนขั้นต่อไป
อียูจะจัดให้มีการประชุมเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียต่อผลการไต่สวนในช่วงกลางเดือนก.ย.2561
ซึ่งกรมฯ ได้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวแล้ว
เพื่อยืนยันประเด็นการขอให้ยกเว้นประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่ถูกใช้มาตรการเซฟการ์ด
สำหรับประกอบการพิจารณาตัดสินและมีผลการไต่สวนในชั้นที่สุดต่อไป
สำหรับการเปิดไต่สวนเพื่อพิจารณาใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น
หรือ Safeguard Measure ดังกล่าว
อียูได้เปิดไต่สวนกับสินค้าเหล็กชนิดต่างๆ รวม 26
กลุ่มสินค้าตั้งแต่เดือนมี.ค.2561 และต่อมาได้เพิ่มรายการสินค้าอีก 2
กลุ่มสินค้าในเดือนมิ.ย.2561 รวมเป็น 28 กลุ่มสินค้า
ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ
ได้เร่งหาข้อมูลและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลโต้แย้งแก้ต่างถึงคณะกรรมาธิการยุโรป
ซึ่งต่อมาได้มีการประกาศใช้มาตรการปกป้องชั่วคราว (Provisional Safeguard Measure) ซึ่งเป็นขั้นตอนตามกระบวนการไต่สวนกับสินค้าเหล็กรวม
23 กลุ่มสินค้าอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย