สศค. ปรับจีดีพีขึ้น ร้อยละ 4.5

กระทรวงการคลัง 26 ก.ค. –  สศค.ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐ 


นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2561 ว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็นโต 4.5% จากประมาณการเมื่อเดือนเมษายนที่คาดว่าจะขยายตัว 4.2% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ตามกรอบรายจ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนภาครัฐประจำปีงบประมาณ 2561  

ทั้งนี้ ในการปรับประมาณการเศรษฐกิจ สศค.ยังได้ปรับประมาณการส่งออกปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.7% จากเดิมคาด 8% ขณะที่การนำเข้าปรับเพิ่มขึ้นเป็น 14.9% จากเดิมที่ 12.5% การบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% จากเดิมคาด 3.5% ด้านการลงทุนเอกชนปรับเพิ่มเป็น 3.9% จากเดิมที่ 3.8% ขณะที่การบริโภคภาครัฐปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.9% จากเดิมคาด 3% และการลงทุนภาครัฐปรับลดลงมาอยู่ที่ 7.9% จากเดิมคาด 8.9%  


ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ยังคงประมาณการอยู่ที่ 1.2% เช่นเดียวกับเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงประมาณการที่ 0.7% ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ตามราคาในหมวดพลังงานที่ปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุล 44.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 8.8% ของจีดีพี  

“ในการประมาณการครั้งนี้ เรายังได้ปรับสมมติฐานค่าเงินบาทใหม่ โดยคาดว่าปีนี้ค่าเงินบาทจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นโดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้ โดยค่าเฉลี่ยเงินบาทจะแข็งค่าที่ระดับ 32.25 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากปีก่อน 5% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบต่อดูไป ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 70.1 ดอลลาร์ต่อบาเรล จากเดิมคาด 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล” นางสาวกุลยา กล่าว  

แต่สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ยังคงคาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% ต่อปี จนถึงสิ้นปี 2561  


“ส่วนจะทำให้จีดีพีปีนี้ขึ้นไปถึง 5% มีความเป็นไปได้ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับมาตรการการลงทุนต่างๆ ว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่จะออกมาขับเคลื่อนเพิ่มเติม โดยเฉพาะการสนับสนุนเอสเอ็มอี” นางสาวกุลยา กล่าว  

ด้านเศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประกอบกับไตรมาส 2 พบว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง จากการส่งออก การท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ โดยการส่งออกในเดือนมิถุนายน มีมูลค่า 21.8 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.2% ด้านไตรมาส 2 มีมูลค่า 20.2 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัว 10.6% สำหรับมูลค่าการนำเข้ามีมูลค่า 20.2 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัว 10.8% ส่งผลให้ดุลการค้ากลับมาเกินดุล 1.6 พันล้านดอลลาร์  

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 1.4% เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน ด้านไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.3% โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 0.8% และไตรมาส 2 อยู่ที่ 0.8% . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ