ฝากขัง”สาวทอม”ทำร้ายแฟนสาว ศาลให้ประกันตัว

กทม.25 ก.ค.- ตำรวจยื่นฝากขัง”สาวทอม”โหดทำร้ายแฟนสาวสาหัส ค้านประกัน ด้านญาติยื่นหลักทรัพย์ขอประกัน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต


พนักงานสอบสวน สน. พหลโยธิน คุมตัว น.ส.กาญจนา สินประเสริฐ”สาวทอม”ไปศาลอาญารัชดาฯ เพื่อฝากขังผัดแรก 12 วัน คดีทำร้ายร่างกายแฟนสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9 เมื่อเวลา 01.46 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และกลายเป็นข่าวดังในโลกโซเชียล จากการสอบปากคำ น.ส.กาญจนา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุสาเหตุที่ลงมือทำร้ายแฟนสาวอย่างทารุณ เพราะมึนเมาประกอบกับโมโหที่แฟนสาวพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัวจะเปิดโทรศัพท์มือถือดูข้อความสนทนา พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพฤติกรรมผู้ต้องหา ค่อนข้างรุนแรงและมีพฤติการณ์หลบหนีหากได้ประกันตัวเกรงว่าอาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยาน หลักฐานและข่มขู่พยานรวมถึงผู้เสียหายได้


น.ส.กาญจนา ใช้กระดาษปิดบังใบหน้าและสวมหน้ากากอนามัย ขณะเดินลงจาก สน.พหลโยธิน เพื่อขึ้นรถไปศาล ท่ามกลางประชาชนยืนมุงดูด้วยสนใจและส่งเสียงวิพากษณ์วิจารณ์

คำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ผู้ต้องหาและ น.ส.พิมพ์พิไล ปักษี ที่คบหากับผู้ต้องหาเดินทางกลับจากดื่มสังสรรค์ที่ห้องพักเพื่อนอาคารชุดเอส พี เพลส ซ.รัชดาภิเษก 36 แยก 9-13 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร เกิดมีปากเสียงกันที่ชั้นล่าง ของอาคาร ผู้ต้องหาได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.พิมพ์พิไล จนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณกระดูกกะโหลกศีรษะ ,ตาขวาแตกและมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาข้างขวา ,ศีรษะบวมพกช้ำ , ใบหน้ามีอาการบวมและแผลถลอก หลังเกิดเหตุตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้นำตัว น.ส.พิมพ์พิไล ส่งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กระทั่ง น.ส.พิมพ์พิไล มีอาการดีขึ้น จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพร้อมขอออกหมายจับผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยในวันเดียวกันเมื่อเวลา 16.00 น.ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ต.สารจิตร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน และได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.297 มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-200,000 บาท โดยทั้งในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ 

ด้านมารดา น.ส.กาญจนา ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 120,000 บาท ขอประกันตัวศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวน.ส.กาญจนา และให้มารายงานตัวต่อศาลวันที่ 11 ก.ย.นี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัวกินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง