ปปง. ยึดทรัพย์ 100 ล้านเครือข่ายตุ๋นลงทุนต่างประเทศ

ปปง.25 ก.ค.-ปปง.สั่งยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านแม่ทีมและเครือข่ายบริษัท โอดี แคปปิตอล เผยพฤติกรรม อ้างระดมทุนทำธุรกิจค้าเงินตรา และกำลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เลขาธิการ ปปง.เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ แม้แต่ญาติพี่น้องเพราะอาจเป็นเหยื่อต้มตุ๋นโดยไม่รู้ต้ว 


พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์  วีริยาสรร เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 13/2561 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน บริษัท โอดี แคปปิตอล จำกัด กับพวก มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทตามความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542


สำหรับพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดดังกล่าวคือ รวมกลุ่มบุคคลตั้งเป็นบริษัทขึ้นมา ใช้ชื่อว่า บริษัท โอดี แคปปิตอล จำกัด จากนั้นก็ชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนทำธุรกิจเก็งกำไร เช่น ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ร้านค้า จิวเวลรี่ เป็นต้น โดยมีการจัดทำและเสนอแผนการลงทุน ชักชวนประชาชนมาเป็นสมาชิก อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกที่ร่วมลงทุนในอัตราร้อยละ 5–10 ต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าปกติทั่วไป 


นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนาตามสถานที่ต่างๆ เพื่อโฆษณาเชิญชวน สร้างความเชื่อมั่นและน่าสนใจ โดยอ้างว่าบริษัทกำลังเข้าตลาดหุ้นที่ต่างประเทศ ทำให้มีผู้สนใจร่วมลงทุนจำนวนมาก ผ่านทางแม่ทีมและเครือข่าย

แต่ต่อมาพบว่า บริษัท โอดี แคปปิตอล จำกัด กับพวก ไม่มีการจ่ายผลตอบแทนให้แก่สมาชิกตามที่อ้าง และสมาชิกไม่สามารถถอนเป็นเงินที่ลงทุนไปออกมาได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย และจากการตรวจสอบยังพบว่าบริษัทแห่งนี้ทำธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาตอีกด้วย

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายมาร้องเรียนต่อสำนักงาน ปปง.จำนวน23 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 6,000,000 บาท บางรายมีหนี้สินจากการกู้หนี้ยืมสินไปลงทุน ทางสำนักงาน ปปง.เห็นว่าหากปล่อยให้กลุ่มผู้กระทำความผิด หลอกลวงประชาชนไปเรื่อยๆ จะเกิดความเสียหายต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจร้ายแรง จึงต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที ขณะที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจได้รับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีอาญาแล้ว

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขอเตือนไปยังผู้กระทำผิดกฎหมาย ปปง. ที่คิดว่าสามารถหลบหลีกโดยการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปให้บุคคลที่ 3 ทำให้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้นั้น เป็นความเข้าใจที่ผิด เช่น กรณีนี้อ้างว่าได้โอนทรัพย์สินต่อไปให้กับแม่ข่ายระดับสูงกว่าไปแล้ว จึงไม่ทราบและไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการกระทำความผิด แต่ข้อเท็จจริง คือ สำนักงาน ปปง. สามารถตรวจสอบเส้นทางทางการเงินหรือพยานหลักฐาน จนพบว่ามีการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวมทั้งพ่อแม่ พี่น้อง หรือญาติ  ซึ่งทางสำนักงาน ปปง. ก็สามารถดำเนินมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินได้ตามกฎหมาย

“ฝากเตือนไปยังผู้กระทำความผิด ขอให้หยุดการกระทำเสีย แม้จะยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปยังไปบุคคลอื่น ปปง.ก็จะได้ตรวจสอบเพื่อนำทรัพย์สินกลับมาคืนผู้เสียหาย ตามนโยบายที่ว่า สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้สุจริต ปปง.จะดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไข ด้วยกฎหมายฟอกเงิน”เลขาธิการ ปปง. กล่าว และว่า ขณะเดียวกันขอฝากไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลใดก็ตามที่ชักชวนไปลงทุนที่ผิดกฎหมาย แม้แต่บุคคลใกล้ชิด พ่อแม่ ญาติพี่น้องก็ตาม  เนื่องจากบุคคลดังกล่าวอาจหลงกลมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ และเชื่อว่าจะได้รับผลประโยชน์ที่สูง จึงพยายามหาเงินไปลงทุนเพิ่ม ควรสอบถามไปยังหน่วยงานราชการต่าง ๆ ก่อนที่จะลงทุน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น