จันทบุรี 12 ก.ค. – หนุ่มนักไตรกีฬาซ้อมว่ายน้ำในบึงหนองน้ำขาว หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี พบซากรถจมก้นบึง พร้อมโครงกระดูกมนุษย์ คาดเป็นหนุ่มวิศวกรหายตัวไปพร้อมรถเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (11 ก.ค.) ตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานจันทบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ และ กำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ตรวจสอบหลังได้รับแจ้งจากนายสิรวัชร พรหมคลี่ อายุ 27 ปี นักไตรกีฬา ว่าพบซากรถยนต์เก๋งจมอยู่ก้นบึงหนองน้ำขาว หมู่ 7 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขณะซ้อมว่ายน้ำ คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ด้านใน
ที่เกิดเหตุพบเป็นบึงหนองน้ำกว้างประมาณ 180 ไร่ ติดกับสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง เจ้าหน้าที่ของ อบต.นำรถแบ็กโฮเล็กเข้ากู้ซากรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ญล 4327 กรุงเทพมหานคร ขึ้นมาจากก้นบึงที่มีความลึกกว่า 4 เมตร สภาพซากรถเก๋งมีตะไคร่น้ำขึ้นเกาะเต็ม
จากการตรวจสอบภายในซากรถเก๋ง พบโครงกระดูกมนุษย์กระจายอยู่บริเวณเบาะนั่งด้านหน้าและพื้นรถทั้งสองฝั่ง พร้อมกับทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด
รถคันดังกล่าวอยู่ในลักษณะเปิดกระจกฝั่งคนขับไว้ มีกุญแจรถเสียบคาอยู่ในตำแหน่ง on ส่วนเกียร์ออโต้อยู่ในตำแหน่ง D3 ที่บริเวณพื้นรถฝั่งคนขับพบขวดยาฆ่าแมลงยี่ห้อหนึ่ง และยังมีขวดน้ำดื่มวางอยู่บนเบาะ นอกจากนี้ยังพบกระเป๋าเงินวางอยู่ที่เบาะหลัง ตรวจสอบพบมีประจำตัวประชาชนของนายเรืองฤทธิ์ จิตรโท อายุ 32 ปี ชาวอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น คาดว่าจะเป็นของผู้เสียชีวิต ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำเศษโครงกระดูกออกมาตรวจสอบ พบว่าชิ้นส่วนใหญ่ๆ อยู่เกือบครบ และไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย
จากการตรวจสอบเลขทะเบียนรถ พบว่ารถคันดังกล่าวเคยมีการประกาศตามคนหายตัวไปพร้อมกับรถ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2554 หรือประมาณ 7 ปีที่แล้ว คือ นายเรืองฤทธิ์ จิตรโท หรือ กบ ขณะนั้นอายุ 28 ปี ทำงานในตำแหน่งวิศวกร บริษัท AA กบินทร์บุรี ซึ่งก่อนหายตัวไปได้เดินทางมาหาแฟนสาวที่ อ.เมือง จ.จันทบุรี
หลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตลอดจนหลักฐานต่างๆ ตำรวจตั้งสันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และนำชิ้นส่วนโครงกระดูกไปเก็บรักษาที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรตามขั้นตอน ก่อนจะนำผลมาประมวลกับพยานหลักฐาน ตลอดจนติดต่อญาติและบุคคลใกล้ชิดโดยเฉพาะแฟนสาว เพื่อสรุปหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป. – สำนักข่าวไทย





