ตลท. 11 ก.ค. – หุ้นไทยลดลง 6.97 จุด หวั่นสงครามการค้า หลังสหรัฐประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ (11 ก.ค. ) ที่ระดับ 1,636.63 จุด ลดลง 6.97 จุด หรือร้อยละ 0.42 มูลค่าการซื้อขาย 44,493.49 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯ แตะจุดสูงสุดที่ 1,641.34 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,628.03 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศเป็นผลจากสงครามการค้า หลังผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ ในอัตราร้อยละ 10 ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคจนถึงสินค้าด้านการเกษตร
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคมตามคาด โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยแวดล้อมภายนอกประเทศที่เริ่มผ่อนคลายมากขึ้นและข่าวร้ายที่ตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว เช่น ประเด็นสงครามการค้า
นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงและยังมีแรงซื้อสนับสนุนเข้ามาจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองดีขึ้นต่อค่าเงินบาท สะท้อนจากแรงขายในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญมูลค่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ บล.ทรีนีตี้ ยังคงยืนยันเป้าหมายดัชนีเดือนกรกฎาคม 1,650 จุด ส่วนกรณีที่ดีสุด หากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยประกาศอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก็มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวทะลุกรอบดังกล่าวขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,680-1,700 จุดได้เช่นกัน
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 198.66 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 138.33 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 766.58 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 429.58 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย