จีนขอบคุณรัฐบาลไทย เร่งกู้ชีพผู้ประสบภัย

ก.ท่องเที่ยวฯ 7 ก.ค.-เอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทยขอบคุณรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการกู้ชีพกู้ภัยผู้ประสบภัยจากเหตุเรือล่ม ด้านศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์สั่งทีมกู้ชีพเพิ่มลงพื้นที่วันนี้ พร้อมขอความร่วมมือสื่อ แพร่ภาพผู้ประสบเหตุด้วยความระมัดระวัง  


กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งว่า วานนี้ (6 ก.ค.) เวลา 22.45 น. ที่ ห้องประชุมท่าอากาศยานภูเก็ต นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้การต้อนรับและประชุมร่วมกับนายหลู่ย์ เจี้ยน (MR.LYO JIAN) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย ในโอกาสเดินทางมา ติดตาม ให้กำลังใจนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ประสบภัยจากเหตุการณ์เรือล่มในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก(ยอดผู้เสียชีวิต 33คน ผู้สูญหาย 23 คน  ข้อมูลณวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 เวลา 20.45 น.)  โดยการประชุมได้หารือร่วมกันเพื่อวางแนวทางการอำนวยความสะดวกและค้นหาผู้รอดชีวิต รวมถึงพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล อำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้เสียชีวิต ที่จะเดินทางมารับศพที่จังหวัดภูเก็ต


รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาลไทยจะพยายามอย่างสุดความ สามารถในการช่วยเหลือดูแลและค้นหาผู้ที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในที่ประชุมแห่งนี้มีทั้งผู้ว่าฯภูเก็ตซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุเรือล่ม,ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,แม่ทัพน้อยที่ 4 ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยทั้งหมด มีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและทีมทำงาน โดยในขณะนี้มีทีมที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการกู้ชีพกู้ภัยรวมทั้งหมดกว่า 800 คน และจนถึงวันนี้หน่วยกู้ชีพกู้ภัยยังคงออกลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัยอยู่อย่างต่อเนื่องและวันนี้ (7ก.ค.)จะมีทีมเสริมกู้ชีพกู้ภัยลงไปในพื้นที่อีกจำนวนมาก เพื่อค้นหาผู้ประสบภัยที่อาจจะยังติดอยู่ในเรือ ทั้งหมดนี้คือส่วนของการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย


ในส่วนการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งคณะทำงาน 7 ฝ่ายเพื่อลงไปดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ถูกช่วยเหลือขึ้นมาส่วนหนึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาลโดยมีกงสุลจีนเข้าไปเยี่ยมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพทย์และพยาบาลให้การดูแลเป็นอย่างดีโดยมีล่ามเข้าไปให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวก แก่ผู้ประสบภัย

นอกจากนี้ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์มือถือ อำนวยความสะดวก บริการแก่ผู้ประสบภัยและญาติของผู้เสียชีวิตฟรีเพื่อให้สามารถสื่อสารกลับไปประเทศจีนได้และตามที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง  ออกแถลงการณ์เนื้อหาสำคัญ คือขอให้กระบวนการค้นหาผู้รอดชีวิตดำเนินการต่อไปอย่างเต็มที่ ซึ่งทางการไทยจะยังคงใช้ทุกโอกาสในการออกค้นหาต่อเนื่อง สม่ำเสมอ โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับความจริงใจในการค้นหาผู้รอดชีวิตและดูแลผู้ประสบภัยอย่างดีที่สุด จะกระทำอย่างระมัดระวังและเรียบร้อยที่สุด โดยระดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในการค้นหาผู้รอดชีวิต และผู้ประสบภัย

ขณะเดียวกันการดำเนินการได้รับการสนับสนุนจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า)สนับสนุนล่ามภาษาจีนเพื่อสื่อสารกับผู้ประสบภัย และครอบครัวของผู้เสียชีวิตและวันนี้ได้แจ้งกับสื่อมวลชนเพื่อขอความร่วมมือในการเผยแพร่ภาพข่าวของผู้ประสบภัย ด้วยความระมัดระวังโดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้ประสบภัย ดังนั้นในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งทั้งนี้เราจะร่วมกันเพื่อดำเนินการดูแลผู้ประสบภัยอย่างดีที่สุด

ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย กล่าวว่า จากที่รับฟังสิ่งที่บอกเล่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการเดินทางมาเพื่อต้องการจะมาช่วยร่วมมือแก้ปัญหาจากการเกิดอุบัติเหตุเรือล่มครั้งนี้ โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับรัฐบาลจีนเป็นอย่างมากที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นก่อให้เกิดผู้สูญเสียเป็นจำนวนมาก โดยสื่อมวลชนทั้งไทยและจีนได้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารนี้เป็นจำนวนมาก เห็นถึงการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี โดยทางประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนได้กล่าวถึงกรณีนี้โดยให้กระทรวงการต่างประเทศและกงสุลจีนได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและช่วยกันเร่งหาผู้สูญหายให้ครบโดยเร็วที่สุด  

ในส่วนของนายกรัฐมนตรีของจีนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกันโดยให้เร่งเยียวยาดูแลผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนด้วย การเดินทางมาสู่ประเทศไทยครั้งนี้เพื่อจะร่วมปฏิบัติการตามเจตนารมณ์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและนายกรัฐมนตรีให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ในการที่จะได้มีส่วนร่วมในการค้นหาผู้สูญหายร่วมกับรัฐบาลไทยด้วย และรัฐบาลจีนขอขอบคุณและขอชื่นชมที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญในการค้นหาผู้ประสบภัยเป็นอย่างดี  

สำหรับไทยและจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะในการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ดังนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จีนและไทยจะ ต้องมีความร่วมมือในการจัดการจากเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ดีที่สุดเพื่อร่วมกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว ด้วยการปฏิบัติการทั้งนี้จะต้องจะเน้นใน 3 ด้าน คือการเริ่มค้นหาผู้สูญหายการหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและจากเหตุการณ์ครั้งนี้รัฐบาลจีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลไทยจะตั้งศูนย์อำนวยการคอยอำนวยความสะดวกให้กับญาติของผู้ประสบภัยหรือผู้เสียชีวิตเนื่องจากจะมีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ประสบภัยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมากและสิ่งที่สำคัญคือรัฐบาลจีน ให้ความสำคัญคือการรายงานข้อมูลข่าวสารให้สื่อมวลชนทั้งไทยและจีนได้นำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างขวาง  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย