ธปท.ห่วงเศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่ำกว่าร้อยละ 3.2

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – ธปท. ห่วงเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ามีความเสี่ยงโตต่ำกว่าร้อยละ3.2 จากผลกระทบ Brexit  และการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญกระทบจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง


นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท.  กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 3.2 โดยมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากผลกระทบกรณีที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจคู่ค้าอาจขยายตัวต่ำกว่าที่คาด โดยเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร จะโตเพียงร้อยละ0.6 ในปีหน้าจากปีนี้ขยายตัวร้อยละ2.2 ส่งผลให้การส่งออกในปีนี้ยังหดตัวร้อยละ2.5 และปีหน้าหดตัวร้อยละ 0.5

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากภาคการท่องเที่ยวจากการจัดระเบียบผู้ประกอบการทัวร์ศูนย์เหรียญอาจกระทบจำนวนนักท่องเที่ยวจีน มากกว่าที่คาดจะมีผลกระทบในช่วงปลายปี2559 ประมาณ 200,000คน และ ปี 2560 จำนวน 100,000คน ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวมีสัดส่วนต่อ จีดีพีร้อยละ 9-10  แต่ปัจจุบันสัดส่วนท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ15 ซึ่งมีส่วนสำคัญมาทดแทนการส่งออกที่หดตัวลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทย โดยธปท.ลดประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาเที่ยวไทยในปีนี้ เหลือ 36.3 ล้านคนจากเดิม 36.7 ล้านคน


ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงเรื่องที่เอกชนมีความสามารถในการรองรับช็อคทางเศรษฐกิจต่ำกว่าคาด  และปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลของสถาบันการเงินยังไม่ต่ำสุด โดยเฉพาะในธุรกิจเอสเอ็มอี  การบริโภค สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต ที่เอ็นพีแอลยังปรับขึ้น เป็นตัวฉุดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

นายจาตุรงค์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนตามเงินทุนเคลื่อนย้าย เนื่องจากนโยบายการเงินของประเทศหลักทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ยังคงผ่อนคลาย ดังนั้นสภาพคล่องที่มีอยู่ในโลกยังมีมากขึ้นต่อเนื่อง บางส่วนยังไหลมาหาผลตอบแทนในประเทศที่มีผลตอบแทนที่สูง เช่นประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งคาดเดาลำบากว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะเป็นไปในทิศทางใด หากมีปัจจัยเปลี่ยนแปลงทิศทางของเงินทุนก็อาจจะไหลกลับได้ เพราะตลาดการเงินมีความอ่อนไหวต่อกระแสข่าวและยังมีความผันผวนต่อไป.- สำนักข่าวไทย

 


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข