กทม. 27 มิ.ย. – ภารกิจค้นหาและช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ติดภายในถ้ำ ล่าสุดข้อมูลจากผู้สื่อข่าวจากภาคสนามในเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา ยังไม่มีคำยืนยันว่าหน่วยซีลเดินทางไปถึงจุดที่เรียกว่า “หาดพัทยา” ภายในถ้ำแล้วหรือไม่ แต่ที่แน่ชัดคือ มีคำยืนยันแล้วว่าพบปล่องถ้ำด้านบนรวม 3 จุด
ข้อมูลล่าสุดจากกองอำนวยการร่วมฯ ณ เวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา ยังไม่มีการเปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งของหน่วยซีลอย่างเป็นทางการ และไม่มีคำยืนยันว่าเดินหน้าไปถึงจุดที่เรียกว่า “หาดพัทยา” หรือไม่ โดยข้อมูลเมื่อวานนี้ทราบว่าหน่วยซีลต้องล่าถอยจากโถง 3 กลับมายังโถง 2 เพราะปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และวันนี้ได้ส่งกำลังบำรุงเข้าไปพร้อมเสบียงอาหารสำหรับ 3 วัน เพื่อปักหลักทำภารกิจภายในถ้ำ ข้อมูลกำลังพลหน่วยซีลขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 41 นาย และมีทหารจาก มทบ.ที่ 37 สนับสนุน
ส่วนปฏิบัติการเหนือถ้ำหลวง และภูเขาสูง เพื่อค้นหาปล่องถ้ำ ซึ่งถือเป็นความหวังที่จะพบเจอกับทั้ง 13 คน มีการจัดกำลัง 24 ชุด จากกองพลทหารราบที่ 7 ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จากทั่วประเทศ ออกเดินเท้าหาปล่องถ้ำทั้งจุด A, B และ C ส่วนฝั่ง “ผาหมี” เจ้าหน้าที่ก็ไม่ละเลย จัดกำลังเดินเท้าขึ้นไปสำรวจเช่นเดียวกัน เผื่อว่าผู้สูญหายอาจเดินไปยังโถงถ้ำที่ด้านนั้น
ข้อมูลล่าสุด พบปล่องถ้ำ 3 จุด และการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าปล่องแรกตัน ปล่องที่ 2 พยายามโรยตัวแล้วแต่ทางแคบ ไปต่อไม่ได้ และปล่องที่ 3 โรยตัวลงไปแล้วแต่มีอุปสรรค
สำหรับภารกิจคู่ขนานนอกเหนือจากปฏิบัติการด้วยกำลังคนที่เดินเท้าเข้าช่วยเหลือและค้นหาทั้งในถ้ำและนอกถ้ำ แต่อีกภารกิจที่สำคัญเป็นอย่างมากคือ การเร่งระบายน้ำออกจากถ้ำ รวมถึงพร่องน้ำออกจากหนองพุ ซึ่งอยู่พื้นที่ใกล้เคียง
จากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่บอกว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.เชียงราย 60-80% ทำให้น้ำที่อยู่บนยอดเขาไหลลงมาด้านล่าง ทำให้น้ำภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือ รวมถึงความปลอดภัยด้านอื่นๆ
สำหรับแผนการระบายน้ำล่าสุดออกจากถ้ำ แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ สูบน้ำออกจากถ้ำและสูบน้ำออกจากหนองพุ โดยภายในถ้ำมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้ากำลังแรงสูงรวม 8 เครื่อง แต่การสูบน้ำไม่สัมพันธ์กับมวลน้ำที่ไหลลงมาจากเขา โดยอัตรา 3000 ลิตร ต่อนาที
ข้อมูลจากผู้ว่าฯ เชียงราย ระบุว่ามีเครื่องสูบน้ำรวม 30 เครื่อง แต่ใช้สูบน้ำพร้อมกันได้ 10 เครื่อง ส่วนอีก 20 เครื่อง สแตนด์บายไว้ เพราะกระแสไฟฟ้าเพียงพอสำหรับ 10 เครื่องเท่านั้น น้ำที่ไหลออกจากถ้ำจะเดินท่อน้ำออกมาจากพื้นที่โดยรอบของถ้ำ และปล่อยให้น้ำไหลออกไปอย่างอิสระ ส่วนหนึ่งอาจไหลลงไปรวมที่หนองพุ
ส่วนแผนการระบายน้ำรอบนอกที่หนองพุ ได้ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มากกว่า 10 เครื่อง และการพร่องน้ำครั้งนี้จะรับน้ำได้ 2 ทาง คือ 1.รับน้ำจากใต้ดินที่เชื่อมต่อหรือซึมจากถ้ำ และ 2.น้ำที่ไหลจากการสูบน้ำออกจากถ้ำและน่าจะไหลลงมายังหนองพุ ซึ่งการพร่องน้ำออกจากหนองพุ ล่าสุดมีรายงานว่าประมาณ 2-3 เมตรแล้ว. – สำนักข่าวไทย