กรมปศุสัตว์ 27 มิ.ย.-กรมปศุสัตว์กวดขันจับกุมการใช้สารเร่งเนื้อแดงในสุกรอย่างเข้มงวด
จะออกสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ หากพบฟาร์มใดใช้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า
ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจฟาร์มสุกรในจังหวัดนครปฐมและราชบุรีซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงสุกรที่ใหญ่ที่สุดเพื่อกวดขันจับกุมการใช้สารเร่งเนื้อแดง
ซึ่งในจังหวัดนครปฐมยังไม่พบฟาร์มที่ใช้ แต่ในจังหวัดราชบุรีพบ 4 ฟาร์มอายัดสุกรไว้ 8,000 ตัวดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับได้แก่ พ.ร.บ.
ควบคุมอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 พ.ร.บ.
ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559
และประกาศสาธารณสุข (ฉบับที่ 269) พ.ศ. 2546 เรื่องมาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อนสารเคมีกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ได้จัดระบบตรวจสอบ เฝ้าระวัง
และเก็บตัวอย่างตลอดห่วงโซ่การผลิตได้แก่ที่โรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์ม โดยเก็บตัวอย่างอาหารและน้ำ
รวมถึงปัสสาวะสัตว์ ที่โรงฆ่าสัตว์ เก็บตัวอย่างปัสสาวะก่อนเข้าเชือดและสถานที่จำหน่ายจะสุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อเพื่อตรวจหาสารเร่งเนื้อแดง
นอกจากนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสัตว์
คณะทำงานปราบปรามการใช้สารเร่งเนื้อแดงซึ่งมีชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในการปราบปราบจับกุมฟาร์มที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงทั่วประเทศ
สำหรับสารเร่งเนื้อแดงเป็นชื่อที่ใช้เรียกทั่วไปของสารในกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์
เป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติเพิ่มการสลายไขมันที่สะสมในร่างกาย เกษตรกรบางรายจึงนำไปใช้เพื่อลดปริมาณไขมันในสัตว์
เพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อตลอดจนเร่งการเจริญเติบโต
ก่อนหน้านี้กรมปศุสัตว์ได้เชิญผู้ประกอบการค้ากำไรแบบคนกลางซึ่งสุกร
(โบรกเกอร์)
มาประชุมเพื่อขอความร่วมมือไม่รับซื้อหมูจากฟาร์มที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้หน่วยงานต่าง
ๆ ของกระทรวงคุมเข้มเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารซึ่งกรมปศุสัตว์จะหาแนวทางให้หมูปลอดสารเร่งเนื้อแดงที่จะขายออกจากฟาร์มมีราคาสูงขึ้น
สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรเลิกใช้สารเร่งเนื้อแดง –สำนักข่าวไทย