รมว.เกษตรฯ ย้ำพบทุจริตงบไทยนิยมยั่งยืนสั่งย้ายทันที

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – รมว.เกษตรฯ กำชับพบข้าราชการทุจริตไทยนิยมฯ สั่งย้ายออกนอกพื้นที่ทันที ลงโทษทั้งวินัยและอาญา


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการด่วนที่สุดขอให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงและทุกกรมตรวจสอบแนะนำและกำกับการดำเนินงานตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนทุกโครงการ หากตรวจพบหรือประเมินแล้วมีแนวโน้มว่าจะมีการดำเนินการไม่ถูกต้องให้รีบรายงานปลัดกระทรวงและอธิบดีต้นสังกัดทราบ เพื่อแก้ไขปัญหาทันที และย้ำว่าในกรณีที่เกิดความผิดพลาดจากการทุจริตคอร์รัปชั่นให้มีคำสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ทันทีแล้วตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 15 วัน หากพบว่ากระทำผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมายและวินัยอย่างเฉียบขาด อีกทั้งให้ทุกส่วนงานที่ได้รับงบประมาณไทยนิยมยั่งยืนประชาสัมพันธ์ผลของโครงการที่ประชาชนได้รับประโยชน์ทุกช่องทางอย่างกว้างขวางทุก ๆ 15 วัน

สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับงบประมาณกลางปี 2561 (เพิ่มเติม) 24,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการไทยนิยมยั่งยืนมีเป้าหมายเพิ่มรายได้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยที่ขึ้นทะเบียนคนจน 3.9 ล้านคนให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินโครงการตามแผนงานที่ 1 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร 20 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการสร้างฝายชะลอน้ำและจัดหาแหล่งน้ำชุมชน โดยกรมพัฒนาที่ดิน พื้นที่ดำเนินการ 46 จังหวัด และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พื้นที่ดำเนินการ 27 จังหวัด งบประมาณ 124 ล้านบาท  2.โครงการพัฒนาโครงสร้างด้านแหล่งน้ำชลประทาน โดยกรมชลประทาน พื้นที่ดำเนินการ 30 จังหวัด งบประมาณ 9,966 ล้านบาท 3.โครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และกรมส่งเสริมการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ 46 จังหวัด งบประมาณ 1,553 ล้านบาท


4.โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว เพื่อผลิตสินค้าเกษตรอื่นที่เหมาะสม โดยกรมพัฒนาที่ดินพื้นที่ดำเนินการ 13 จังหวัด งบประมาณ 29 ล้านบาท 5.โครงการศูนย์ขยายพันธุ์พืช โดยกรมส่งเสริมการเกษตร พื้นที่ดำเนินการพื้นที่ของส่วนราชการ งบประมาณ 268 ล้านบาท  6.โครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ดี โดยกรมการข้าว พื้นที่ดำเนินการ 18 จังหวัด และกรมวิชาการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ 13 จังหวัด งบประมาณ 304 ล้านบาท 7.โครงการศูนย์ขยายพันธุ์และส่งเสริมการผลิตปศุสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์ พื้นที่ดำเนินการพื้นที่ของส่วนราชการ งบประมาณ 140 ล้านบาท 8.โครงการสร้างทักษะและส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร โดยกรมส่งเสริมการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ 76 จังหวัด กรมประมง พื้นที่ดำเนินการ 19 จังหวัด กรมปศุสัตว์ พื้นที่ดำเนินการ 73 จังหวัด และกรมวิชาการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ 33 จังหวัด งบประมาณ 5,831 ล้านบาท 9.โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พื้นที่ดำเนินการ 40 จังหวัด กรมส่งเสริมสหกรณ์ พื้นที่เพเนินการ 37 จังหวัด สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พื้นที่ดำเนินการ 6 จังหวัด และกรมหม่อนไหม พื้นที่ดำเนินการ 4 จังหวัด งบประมาณ 98 ล้านบาท

10.โครงการพัฒนาผู้ประกอบการเกษตรรุ่นใหม่ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ 77 จังหวัด งบประมาณ 66 ล้านบาท 11.โครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ พื้นที่ดำเนินการ 42 จังหวัด งบประมาณ 1,017 ล้านบาท 12.โครงการสนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ พื้นที่ดำเนินการ 40 จังหวัด งบประมาณ 410 ล้านบาท 13.โครงการเพิ่มศักยภาพการรวบรวมและการแปรรูปยางพาราในสถาบันเกษตรกร โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ พื้นที่ดำเนินการ 22 จังหวัด งบประมาณ 340 ล้านบาท 14.โครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ โดยกรมชลประทาน และ กยท.พื้นที่ดำเนินการ 53 จังหวัด งบประมาณ 3,628 ล้านบาท 

15.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง โดยการยางแห่งประเทศไทย งบประมาณ 6 ล้านบาท 16.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) โดยการยางแห่งประเทศไทย งบประมาณ 2 ล้านบาท 17.โครงการยกระดับโครงสร้างการผลิตในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปอย่างครบวงจร โดยกระทรวงอุตสาหกรรม งบประมาณ 298 ล้านบาท  18.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารธุรกิจเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป โดยกระทรวงอุตสาหกรรม งบประมาณ 200 ล้านบาท 19.โครงการพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยกระทรวงพาณิชย์ งบประมาณ 6 ล้านบาท และ 20.โครงการประเมินผลการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร งบประมาณ 5.15 ล้านบาท


ส่วนแผนงาน 2 ยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต ดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลัง งบประมาณ 693 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเพิ่มทักษะอาชีพแก่เกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ของกระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ 76 จังหวัด สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พื้นที่ดำเนินการ 70 จังหวัด กรมหม่อนไหม พื้นที่ดำเนินการ 21 จังหวัด กรมพัฒนาที่ดิน พื้นที่ดำเนินการ 14 จังหวัด กรมประมง พื้นที่ดำเนินการ76 จังหวัด กรมวิชาการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ 4 จังหวัด งบประมาณ 505 ล้านบาท และโครงการจ้างแรงงานชลประทานสร้างรายได้แก่เกษตรกร โดยกรมชลประทาน พื้นที่ดำเนินการ 76 จังหวัด งบประมาณ 187 ล้านบาท

นายกฤษฎา ย้ำว่า การดำเนินโครงการต้องทำให้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนในพื้นที่ ทำประชาคมทุกโครงการ โดยเชิญหน่วยงานตรวจสอบภาครัฐเข้าร่วมตรวจโครงการ ซึ่งสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด นำชุดโครงการที่ต้องดำเนินการในพื้นที่จังหวัดแจ้งที่ประชุมอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนั้น ๆ ทราบ และให้ประสานกับนายอำเภอ และหรือฝ่ายปกครองในพื้นที่ทราบ เพื่อร่วมบูรณาการดำเนินการให้เรียบร้อยและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]