ปัญหาพระสงฆ์กับทรัพย์สินส่วนตัว

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – งานศึกษาวิจัยของศูนย์พุทธศาสน์ศึกษา จุฬาฯ เรื่อง “พระสงฆ์กับทรัพย์สินส่วนตัว” พบปัญหาหลายด้านจากการที่พระไปยุ่งเกี่ยวกับเงิน เช่น การฉ้อโกงทรัพย์ แม้จะมีการเสนอแนวทางแก้ปัญหาหลายทาง แต่ยังไม่เคยมีวิธีใดช่วยบริหารจัดการทรัพย์สินของพระและวัดได้เหมาะสม ติดตามรายงานพิเศษ “สงฆ์กับทรัพย์” วันนี้นำเสนอเป็นตอนสุดท้าย



เคยมีงานวิจัยเรื่อง “พระสงฆ์กับทรัพย์สินส่วนตัว” โดยอาจารย์ดนัย ปรีชาเพิ่มประสิทธิ์ ศูนย์พุทธศาสน์ศึกษา จุฬาฯ ศึกษาข้อมูลจากเอกสารทั้งในประวัติศาสตร์และปัจจุบัน ลงพื้นที่ในหลายจังหวัด เพื่อสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวของพระ เช่น เงินนิตยภัต เงินค่าสอน เงินจากกิจนิมนต์ กิจกรรมวัด ทำให้มองเห็นถึงภาพการครอบครองทรัพย์สิน และช่องทางการทุจริตในวัดและวงการสงฆ์ได้ 


ทรัพย์ ในพุทธศาสนา ตามพุทธบัญญัติ อนุญาตให้มีทรัพย์ราคาน้อยที่จำเป็นต่อการประพฤติธรรมได้ แต่จำกัดจำนวนและระยะเวลาการถือครอง เพื่อไม่ให้พระสะสมและยึดถือทรัพย์นั้นเป็นของตัวเอง แต่เมื่อเจาะจงที่ทรัพย์สินส่วนตัว เช่น เงินทอง พบว่าในพระวินัยปิฎก พระไม่สามารถรับ จับ หรือมีเงินทองเป็นของส่วนตัวได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด และยังรวมถึงสิ่งมีค่าที่แลกเปลี่ยนซื้อขายได้ เช่น ธนบัตร เหรียญ เช็ค บัตรเอทีเอ็ม หรือแม้แต่บัตรเครดิต 


งานวิจัยยังชี้ถึงปัญหาของสงฆ์และทรัพย์ส่วนตัวหลายเรื่อง เช่น การฉ้อโกงทรัพย์สินวัด การเรี่ยไรที่ไม่เหมาะสม เกิดคดีอาชญากรรมเรื่องผลประโยชน์ ประพฤติย่อหย่อนในพระธรรมวินัย กระทบต่อความมั่นคงทางศาสนา ทั้งศรัทธา คุณภาพพระ

จากปัญหาวัดพระธรรมกายที่ถูกครหาเรื่องการระดมเงินบริจาค และการสร้างสิ่งก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มากมาย จนถึงปัญหาเงินทอนวัดที่พัวพันถึงพระผู้ใหญ่หลายรูป หลายระดับ ล้วนมีต้นเหตุมาจากเรื่องเงิน เรื่องทรัพย์สิน  

เคยมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องทรัพย์สินของพระสงฆ์หลายวิธี เช่น เสนอจัดตั้งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระพุทธศาสนา แต่ถูกคัดค้านจากวัดที่มีทรัพย์สินมาก เกรงจะเสียประโยชน์ หรือเสนอให้มีทรัพย์สินกองกลางของวัด เพื่อให้พระเบิกใช้เป็นค่าดำรงชีพ เป็นต้น แต่ยังไม่เคยมีวิธีใดช่วยบริหารจัดการทรัพย์สินของพระและวัดได้เหมาะสม

ขณะที่โครงสร้างคณะสงฆ์เป็นระบบรวมศูนย์ ให้อำนาจการบริหารแก่เจ้าคณะทุกระดับ จึงมีโอกาสเกิดระบบอุปถัมภ์ และมีเครือข่ายที่อยู่ได้ด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือและภาคอีสาน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย