fbpx

นายแบงก์เชื่อสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ไม่กระทบอาเซียน

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ เชื่อสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ไม่กระทบอาเซียน มั่นใจเศรษฐกิจแข็งแกร่งจีดีพีโตสูง  ด้านเลขาธิการอาเซียนกระตุ้นชาติสมาชิกปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล



นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงานสัมมนาประจำปีธนาคารกรุงเทพ AEC Business Forum 2018 : Rising city Rising Business ว่า แม้จะเกิดความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน แต่เชื่อว่าข้อพิพาทดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่ออาเซียน เนื่องจากอาเซียนไม่ใช่คู่กรณีโดยตรง และแม้ว่าอาเซียนจะผลิตสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของทั้งสองประเทศ แต่ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งด้วยมูลค่าจีดีพีของอาเซียนในปัจจุบันที่มีมูลค่า 2.8 ล้านล้านดอลลาร์และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปีข้างหน้า มีประชากรทั้งสิ้น 630 ล้านคน ทำให้อาเซียนเป็นตลาดใหญ่อันดับสามของโลก 


นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับจีนและอินเดียซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 ของโลกและเป็นอันดับสองของโลกอีกด้วย และแม้ว่าจะมีเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ  แต่ยังเชื่อว่าพื้นฐานเศรษฐกิจอาเซียนที่แข็งแกร่ง จะยังคงดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในภาคเศรษฐกิจจริงของภูมิภาคนี้ 

โดยที่ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศเป้าหมายของการลงทุน เนื่องจากมีศักยภาพจากโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน3-5 ปีข้างหน้า บวกกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้การขอสินเชื่อของธนาคารยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ที่มีการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งคาดว่าสินเชื่อปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ร้อยละ 5

“ส่วนการที่เงินทุนเคลื่อนย้ายออกจากไทยในช่วงนี้ยังไม่น่ากังวล เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง และ เชื่อว่าทางการ และ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะดูแล และ รับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ โดยในส่วนภาคของธนาคารก็มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน” นายชาติศิริ กล่าว


ด้านดาโต๊ะ ปาดูกา ลิม จ๊อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า อาเซียนต้อง เร่งปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมสู่ยุค 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้ง Bigdata  และ AI โดยคาดว่า มูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัล ใน 6 ชาติสมาชิกอาเซียนจะขยายตัวอย่างรวดเร็วจาก 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า 

โดยชาติสมาชิกต้องมีเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล คือ1.การสร้างโอกาสให้ประชาชนในอาเซียนได้เข้าถึงบรอดแบนด์ อินเตอร์เน็ต และดิจิทัลอย่างทั่วถึง และมีคุณภาพ  ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในอาเซียน 300 ล้านคนจาก 365 ล้านคน 2. ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างนวัตกรรมและเสริมสร้างการแข่งขัน 3. การกำหนดกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลต้องสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและเป็นไปตามมาตรฐานสากล และ 4 . สมาชิกอาเซียนต้องมีการทำงานร่วมกันให้มากขึ้น สร้างแพลตฟอร์ม เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างประสิทธิภาพร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด