สุรพงษ์เดินทางฟังศาลฎีกาตัดสินคดีออกพาสปอร์ตให้ทักษิณ

ศาลฎีกา 19 มิ.ย.- “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล”  เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีออกหนังสือเดินทางให้ “ทักษิณ” ด้าน “เรืองไกร” เผยอดีตนายกฯ แสดงความเป็นห่วง “สุรพงษ์”  


ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์  โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157   

สืบเนื่องจากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  มีมติเมื่อช่วงเดือน ก.พ. 2560 ชี้มูลความผิดทางอาญานายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในหลายคดี ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวของนายสุรพงษ์ขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 


สำหรับคดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือน มี.ค. 2560 ซึ่งนายสุรพงษ์ ได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านบาทขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น.นายสุรพงษ์ได้เดินทางมาศาลพร้อมทีมทนาย และให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับฟังการพิจารณาคดีว่า ยังมีกำลังใจดี แม้จะป่วย เบื้องต้นได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้จำนวนหนึ่งสำหรับการประกันตัว ซึ่งการทำหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศที่ผ่านมา ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย  เปิดเผยว่า หากศาลมีคำพิพากษาว่านายสุรพงษ์ มีความผิดก็พร้อมยื่นอุทธรณ์ สำหรับการลงมติถอดถอนนายสุรพงษ์ออกจากตำแหน่งของที่ประชุม สนช. ไม่น่าจะมีผลต่อการพิพากษาคดีของศาลฎีกาฯ ในวันนี้ นอกจากนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงนายสุรพงษ์ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก