กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – พาณิชย์จับมือค้าปลีกค้าส่งสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก
หวังเป็นพี่เลี้ยงให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและโชวห่วยในพื้นที่
ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
ยอมรับว่าที่ผ่านมา การที่ร้านค้าโชห่วยลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีเงินทุน
ขาดการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี ไม่มีโปรโมชั่นจูงใจ
โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความมั่นคงแข็งแกร่ง
โดยกรมพัฒนาธุรกิจร่วมมือกับบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย)
จำกัด หรือพีแอนด์จีและสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย จัดกิจกรรมพัฒนาค้าส่งค้าปลีกไทยให้เข้มแข็ง
เพื่อสนับสนุนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและชุมชน และการสัมมนาหลักสูตร “Red to Blue Ocean – สู่กลยุทธ์น่านน้ำสีคราม” ขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนและเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นผ่านช่องทางร้านค้าส่งขนาดใหญ่ในท้องถิ่นและร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ
ทั้งนี้ ขณะนี้มีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 40,000 ร้านค้า วางแผนที่จะขยายร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในอนาคต
คาดว่าจะเกิดการจับคู่ทางธุรกิจกว่า 500 คู่ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 100
ล้านบาท ซึ่งเป็นการยกระดับความสามารถการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอีไทยและธุรกิจค้าส่งจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นเกิดการขยายตัวและมีความเข้มแข็ง
ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดการกระตุ้นและมีความแข็งแกร่งมากขึ้นสามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ มองว่าลักษณะของการแข่งขันการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว การแข่งขันด้านราคาหรือการบริหารจัดการในรูปแบบเดิมจะไม่เพียงพออีกต่อไป
การบริหารจัดการธุรกิจจำเป็นต้องพัฒนาแบบบูรณาการ ทั้งในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางธุรกิจ
เพื่อผลักดันให้เกิดการเจาะลูกค้ารายใหม่
เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและพัฒนาสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ เพื่อขับเคลื่อนและเร่งการเติบโตของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกในประเทศ
ทั้งนี้
ผู้ประกอบการค้าส่งขนาดใหญ่ระดับท้องถิ่นสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการร้านค้าของตนเองให้สอดคล้องกับโมเดลการแข่งขันยุคใหม่
ซึ่งธุรกิจค้าส่งขนาดใหญ่ถือเป็นกลไกสำคัญในห่วงโซ่อุปทานภาคการค้าของประเทศ
กระทรวงพาณิชย์จึงผลักดันให้ธุรกิจกลุ่มนี้เป็นพี่เลี้ยงคอยสนับสนุนดูแลร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงพาณิชย์และร้านโชวห่วยในการพัฒนาร้านค้าให้เข้มแข็งรองรับการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น
สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง ลดการพึ่งพาธุรกิจรายใหญ่ และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบทางธุรกิจโดยเน้นความเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันให้มากขึ้น
สำหรับมาตรการการจัดเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลีร้อยละ 27 นั้น กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาความเหมาะสมของอัตราภาษีข้าวสาลีว่าสัดส่วนเท่าใดจึงจะมีความเหมาะสม
ถ้าได้ข้อสรุปแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวการนำเข้าข้าวบาร์เลย์โดยมิชอบนั้น
ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่ามีการนำเข้าจริงหรือไม่ และเข้ามาในรูปแบบใด
นายราฟฟี่ ฟาร์ฮาโด กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล
เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พีแอนด์จี กล่าวว่า ขณะนี้พีแอนด์จี ประเทศไทย
ได้ส่งสินค้าอุปโภค 25 รายการ เช่น ยาสระผม น้ำยาปรับผ้านุ่ม แปรงสีฟัน ฯลฯ
เข้าจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ 22,000 ร้านค้าเรียบร้อยแล้ว
โดยมียอดขายสินค้าพีแอนด์จีต่อเดือนกว่า 100 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย