สมาคมค้าปลีกไทยชง 3 มาตรการสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจไทยหลังโควิด

กรุงเทพฯ 27 พ.ค.-สมาคมค้าปลีกไทยเสนอ 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยหลังโควิด ผลักดันค้าปลีกเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อน ทั้งส่งเสริมเอสเอ็มอีเป็นกรณีพิเศษ ส่งเสริมไทยเป็นเมืองปลอดภาษีและอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจโดยโครงการของภาครัฐสำหรับการใช้จ่ายของประชาชน


นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า  ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นฟู แต่ยังมีความเปราะบาง จากปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยมีการส่งออกเป็นพระเอก แต่ตอนนี้จะเป็นการสลับขั้วกัน การส่งออกจะถูกจำกัดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน และราคาน้ำมันโลกที่สูงขึ้น ต่อจากนี้ภาคค้าปลีกและบริการจะเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และถือเป็นเครื่องจักรสำคัญที่จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้าภาครัฐผลักดันให้เอสเอ็มอีในภาคค้าปลีกและบริการแข็งแรง จะเสริมให้ภาคท่องเที่ยวของประเทศแข็งแรงมากขึ้น เศรษฐกิจไทยจึงจะกลับมาฟื้นคืน และเดินหน้าได้อย่างเต็มกำลังอีกครั้ง

ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เสนอ 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวประกอบด้วยช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้จดทะเบียนในระบบ “THAI SME” ภายใต้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ให้มีสิทธิพิเศษ ได้แก่ จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำด้วย Soft Loan พิเศษ “Digital Supply Chain Financing” ภายใต้โครงการ ITMX เพื่อให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจ้างงานของ SMEs ด้วยโครงการคนละครึ่ง (Co-Payment) ที่รัฐบาลช่วยออกเงินค่าจ้างเด็กจบใหม่ 50% เป็นระยะเวลา 1 ปี ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือ SMEs ให้สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ และยังช่วยเสริมสภาพคล่องของการจ้างงานในระบบและให้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่ไม่เกินวงเงิน 30,000 บาท สำหรับผู้ซื้อสินค้าจาก SMEs ในระบบเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และเพิ่มรายได้ให้กับ SMEs ไทย


ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นเมืองปลอดภาษี สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติคุณภาพสูง เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวแห่งเอเชีย และมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยเปลี่ยนโครงสร้างในการจัดเก็บภาษีนำเข้า เช่น ไม่มี Import Tax สำหรับสินค้านำเข้าเมื่อมีการซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลอาจพิจารณาทดลอง ‘Sandbox ปลอดภาษี’ ที่จังหวัดภูเก็ตก่อนเป็นที่แรก เพราะภูเก็ต ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ และในเฟสต่อไปจะขยายผลไปสู่จังหวัดอื่นๆ จนครบทั้งประเทศ

อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจโดยโครงการของภาครัฐ โดยนำโครงการช้อปดีมีคืนกลับมา เพื่อเป็นการส่งเสริมการบริโภคในประเทศจากประชาชนกลุ่มที่มีรายได้สูง โดยเพิ่มวงเงินเป็น 100,000 บาท พร้อมเพิ่มระยะเวลาการใช้จ่ายเป็น 2 เดือน ถือเป็นโครงการที่สามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว ตรงเป้า มีประสิทธิภาพสูงสุด     และใช้งบประมาณน้อยที่สุด ดำเนินโครงการคนละครึ่งและไทยเที่ยวไทยไว้อย่างต่อเนื่องยาวถึงสิ้นปี ถือเป็นโครงการของภาครัฐ ที่ได้รับผลตอบรับดี ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในการ กิน เที่ยว ใช้ สินค้าและบริการของคนไทย และถือเป็นโครงการที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก