กรุงเทพฯ 29 ก.ย.-ปณดเปิดตัว Healthcare solutions ขนส่งยา-เวชภัณฑ์ถึงมือปชช.อย่าง เท่าเทียม ทั่วถึง ทันเวลา เพื่อสุขภาวะคนไทย ตามนโยบายรัฐบาลมุ่งหวังลดเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสเข้าถึงบริการสธ.
บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด(ปณด) เปิดตัวบริการขนส่งด้านยาและเวชภัณฑ์( Healthcare solutions ) พร้อมจัดเสวนาจากทีมผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เกี่ยวข้องด้าน Healthcare solutions ในหัวข้อ “Healthcare solutions อนาคตโลจิสติกส์ไทย” โดยนางวรรณพร เทพหัสดิน ณ.อยุธยา ประธานคณะกรรมการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 กลายเป็นวิกฤติทางสุขภาพของคนไทย แม้วันนี้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่เรื่องการดูแลสุขภาพ(Healthcare ) ยังเป็นเรื่องที่สำคัญของคนไทย ปณดจึงพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการขนส่งยาและเวชภัณฑ์( healthcare solution) ตามหลักมาตรฐานสากลและองค์การอนามัยโลก( WHO) พร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งหวังลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สร้างโอกาสการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข
นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการปณด กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นให้บริการด้านสาธารณสุขอย่าง “เท่าเทียม ทั่วถึง ทันเวลา เพื่อสุขภาวะคนไทย” เป็นหัวใจสำคัญการบริการจัดส่งด้านยาและเวชภัณฑ์ (Healthcare solutions) ของปณดที่ผ่านมาได้พัฒนาประสิทธิและนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ซึ่งจากประสบการณ์และความพร้อมที่ปณดได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และองค์การเภสัชกรรม ดำเนินโครงการจัดส่งน้ำยาล้างไต ถือเป็นก้าวแรกที่ปณดให้บริการ “Healthcare solutions”
นายพีระ กล่าวว่า หลังได้รับส่งมอบหมายงานจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันได้จัดส่งน้ำยาล้างไตและอุปกรณ์ 3 ล้านถุงต่อเดือนหรือกว่า 36 ล้านถุงต่อปีให้กับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองมากกว่า 3 หมื่นราย และด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ปณด ได้ร่วมกับ 14 องค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนจัดทำจัดทำ “โครงการสร้างโลกสีเขียว” เพื่อถุงน้ำยาล้างไตที่ใช้แล้วนำมารีไซเคิล แปรรูปกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อช่วยการลดอุณหภูมิของโลกหรือภาวะโลกร้อน รวมทั้งเตรียมรองรับการขยายตัว Healthcare solutions โดยจัดทำแผนสร้างคลังเก็บยาในภูมิภาคจากส่วนกลาง ที่ปัจจุบันอยู่ที่สำนักงานบางนา โดยนำร่องที่จ.พิษณุโลก และเตรียมขยายเพิ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จ.นครราชสีมา ภาคใต้ที่จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมให้บริการผ่านศูนย์กระจายสินค้าทุกภูมิภาคทั่วประเทศมากถึง 26 แห่ง เป็นของปณด 10 แห่ง และศูนย์ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัดอีก 16 แห่ง
“เพื่อการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ปณดได้นำเทคโนโลยีระบบ APIและ OMS มาใช้การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ในโครงการอื่นๆ อาทิ โครงการขนส่งตัวอย่างเลือดและจัดส่ง DNA.จากสถานพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อการวิจัยในโครงการ Genomics Thailand โครงการจัดส่งกระดาษซับหยดเลือดของเด็กทารกแรกหลังคลอด 48 ชั่วโมง จากโรงพยาบาลไปยังศูนย์ปฏิบัติการการตรวจคัดกรองสุขภาพทารกแรกเกิดแห่งชาติ รวมถึงการจัดส่งยาและวัคซีนให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ในโครงการที่อยู่ในความร่วมมือกับสปสช. และในอนาคตยังเตรียมวางระบบ IT เชื่อมโยงการจัดเก็บและกระจายสินค้าแบบ SPD (Supply, Processing and Distribution ) ร่วมกับศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ (LogHealth) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อรองรับจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลแมข่ายไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยเป็นการลดปัญหาความซับซ้อนและต้นทุนในการจัดการกระบวนการทางโลจิสติกส์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ” นายพีระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย