ดึงผู้จัดจำหน่าย ค้าส่ง-ค้าปลีกรายใหญ่ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ SME ไทย

นนทบุรี 22 ม.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหารือผู้ผลิต-ผู้จัดจำหน่าย ค้าส่ง-ค้าปลีกรายใหญ่ ดึงเป็นพันธมิตรในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโอกาส พัฒนาศักยภาพ และเพิ่มยอดขายให้ SME ไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนในชุมชน ยกระดับเป็น ‘สมาร์ทโชห่วย’ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวว่า กรมฯได้จัดทำแผนเร่งดำเนินการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พร้อมผลักดันการเพิ่มสัดส่วน GDP เอสเอ็มอีของไทย จาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 ดังนั้น เป้าประสงค์หลักสำหรับการดำเนินงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปี 2567 จึงเน้นให้ความสำคัญต่อการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ  โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

ทั้งนี้ กรมฯ ได้หารือร่วมกับพันธมิตรที่เป็นผู้ผลิต-ผู้จัดจำหน่าย ค้าส่ง-ค้าปลีกรายใหญ่ คือ บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC บริษัท ซีพีแอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SME ตลอดไปถึงร้านโชห่วยในท้องถิ่น โดยวาระสำคัญ ‘ทำอย่างไรที่จะร่วมมือกันสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพให้กับธุรกิจค้า SME และร้านโชห่วยของไทย สามารถเติบโตด้วยความเข้มแข็งและยืนหยัดคู่คนในท้องถิ่น’ รวมทั้ง เป็นกลไกสำคัญของจังหวัดในการเป็นแหล่งจ้างงานระดับภูมิภาค สร้างงาน สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชน ซึ่งโดยรวมเห็นพ้องกันว่า ลำดับแรกจำเป็นต้องบ่มเพาะสร้างจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการ และเติมความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการค้า SME และร้านโชห่วย


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโชห่วยจะเป็นกิจการเล็กๆ แต่เป็นหน่วยธุรกิจเล็กที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศที่ใหญ่มาก ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการค้าส่ง-ค้าปลีกรวมกว่า 400,000 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 370,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เกินกว่า 80% เป็นโชห่วยรายเล็กที่กระจายอยู่ในชุมชน หมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ ดังนั้น การพัฒนาผู้ประกอบการร้านโชห่วยให้มีความเข้มแข็ง ทั้งการเสริมทักษะองค์ความรู้ด้านต่างๆ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยบริหารจัดการภายในร้านค้าจะทำให้ร้านโชห่วยของไทยได้รับการยกระดับเป็น ‘สมาร์ทโชห่วย’ ที่พร้อมแข่งขันและพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ โดยผลหารือกับ BJC, MAKRO และ สหพัฒน์ฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับกรมฯ โดยใช้จุดแข็งของแต่ละบริษัทฯ สนับสนุนองค์ความรู้ที่จำเป็นและเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีอยู่เสริมศักยภาพทุกด้านให้ผู้ประกอบการ โดยจะร่วมกันจัดทำแผนการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม กำหนดช่วงเวลา รูปแบบ และแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับสถานที่ตั้งร้านและขนาดโชห่วยแต่ละแห่งเพื่อให้ง่ายต่อการเสริมสร้างทักษะองค์ความรู้และส่งต่อเทคโนโลยี ทั้งนี้ เชื่อว่า BJC, MAKRO และ สหพัฒน์ฯ จะเป็นพันธมิตรที่เป็นกำลังสำคัญในการยกระดับผู้ประกอบการโชห่วยให้เป็น ‘สมาร์ทโชห่วย’ ที่สมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ร่วมจัดสัมมนาทั้งรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ โดย BJC จัดส่งวิทยากรเข้าร่วมให้ความรู้ผู้ประกอบการด้านการบริหารจัดการร้านค้า รวมถึงการเป็นพันธมิตรโครงการ ‘สมาร์ทโชห่วย พลัส’ ร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบการ ส่งเสริมให้ร้านค้าใช้เทคโนโลยี POS เป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการ ขณะที่ บริษัท ซีพีแอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ร่วมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการด้านบัญชี ภาษี การทำประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาร้านค้า สนับสนุนให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์หรือนิติบุคคล และพร้อมเป็นสื่อกลางส่งต่อข้อมูลของกรมฯ ไปยังร้านค้าโชห่วยที่เป็นสมาชิกของ MAKRO 


นอกจากนี้ ซีพีแอ๊กซ์ตร้าจะเชิญกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะตัวแทนภาครัฐที่มีภารกิจด้านการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเข้าร่วมงานและออกบูธให้คำปรึกษา แนะนำ และร่วมเป็นวิทยากร ในงาน ‘ตลาดนัดโชห่วย’ ครั้งที่ 14 วันที่ 21 – 24 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) จ.ขอนแก่น และงาน ‘ตลาดนัด โชห่วยภูมิภาค’ ช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม 2567 จำนวน 6 ครั้ง 6 ภูมิภาค

ส่วนบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นวิทยากรในการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการโชห่วยด้านการบริหารจัดการต้นทุนสินค้า การจัดเรียงสินค้าที่ถูกต้องตามหลักสากล และการคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมมาจำหน่ายภายในร้าน การเชิญชวนและคัดกรองผู้ประกอบการเข้าร่วมการพัฒนาภายใต้โครงการพัฒนาร้านค้าต้นแบบและโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส ในปี 2567 รวมทั้งประชาสัมพันธ์กิจกรรมอบรม/สัมมนา และหลักสูตร e-Learning ต่างๆ ของกรมฯ เพื่อเสริมสร้าง  องค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วย ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ให้แก่ร้านค้า การออกงานแสดงสินค้าและจัดโปรโมชันพิเศษให้แก่ร้านค้าอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม กรมฯมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการร้านค้าส่งค้าปลีกตั้งแต่ขนาดเล็ก ได้แก่ ร้านค้าปลีกรายย่อย หรือ ร้านค้าโชห่วย ไปจนถึงร้านค้าขนาดกลาง-ใหญ่ ได้แก่ ร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นในระดับอำเภอ/จังหวัด โดยมีเป้าหมาย 3 ประการ คือ 1) เพิ่มรายได้  2) ลดต้นทุน และ 3) สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ และเน้นด้านการส่งเสริมพัฒนาออกเป็น 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 การเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วย จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการและหน่วยงานพันธมิตรที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ด้านที่ 2 พัฒนาร้านค้าให้เป็น ‘สมาร์ทโชห่วย’ ดำเนินการครอบคลุม 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรดำเนินการพัฒนาด้านการปรับภาพลักษณ์ร้านค้า ตามหลัก 5 ส (สวย สะอาด สว่าง สะดวก สบาย) และด้านการส่งเสริมใช้ระบบ POS โดยจัดทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ให้ความรู้ในการนำระบบ POS (Point of Sale) มาใช้บริหารจัดการภายในร้าน 

ด้านที่ 3 การยกระดับร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นให้เป็น ‘ร้านค้าต้นแบบ’ ดำเนินการพัฒนาผู้ประกอบการร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นขนาดกลาง-ใหญ่ในพื้นที่ 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ให้มีมาตรฐานการบริหารจัดการที่ดีตามเกณฑ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้านต่างๆ อาทิ การกำหนดทิศทางและกลยุทธ์สู่ความยั่งยืน ลูกค้าและการตลาด สารสนเทศ เทคโนโลยีและนวัตกรรม บุคลากร การจัดซื้อและบริหารจัดการโลจิสติกส์  การบริหารการขาย 

และกรมฯ จะเดินหน้าขยายความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรรายอื่นๆ ที่มีความเข้มแข็งแต่ละด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันได้ทุกตลาดและเติบโตอย่างเป็นระบบ เช่น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีกอันดับต้นของประเทศ ที่มีทั้งประสบการณ์ องค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจค้าส่ง/โชห่วยและธุรกิจร้านอาหารของไทยให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย