กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.55-32.90 หลังอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือน
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) คาดทิศทางค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.55-32.90 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 32.43 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือน สอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินภูมิภาคหลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไป ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อเงินดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยด้วยมูลค่า 24,700 ล้านบาท และ 2,700 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก แม้อีซีบีระบุว่าจะยุติการเข้าซื้อพันธบัตรหรือ QE ก่อนสิ้นปีนี้ แต่การประกาศเลื่อนปรับขึ้นดอกเบี้ยของอีซีบี สวนทางกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เร็วกว่าคาดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ตลาดปรับคาดการณ์ใหม่ว่าอีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายน 2562 ซึ่งล่าช้ากว่าที่เคยคาดไว้ 3 เดือน เหตุการณ์นี้สร้างความผันผวนให้กับค่าเงินในวงกว้าง โดยเงินยูโรอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงและส่งแรงกระเพื่อมไปยังสกุลเงินอื่น ๆ ให้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ด้วย
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าการที่เฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งมากกว่าเดิมที่คาดไว้ 1 ครั้ง ท่ามกลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งตอกย้ำว่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากปัจจัยบวกเชิงวัฎจักร คือ เฟดมีความชัดเจนมากที่สุดในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเทียบกับธนาคารกลางอื่น ๆ ในระยะสั้น ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกปรับลดการถือครองสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย อย่างไรก็ตาม เฟดยังคงไว้ซึ่งประมาณการ Fed funds rate ระยะยาวที่ร้อยละ 2.9 ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงเผชิญปัจจัยลบเชิงโครงสร้าง อาทิ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลงบประมาณของสหรัฐที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น รวมถึงนโยบายและเป้าหมายด้านการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ หรือแม้แต่การเปิดฉากสงครามการค้ากับจีน บ่งชี้ว่าสหรัฐไม่ต้องการให้เงินดอลลาร์แข็งค่า ประเด็นนี้สนับสนุนมุมมองว่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าในช่วงปลายปีนี้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ในที่ประชุมวันที่ 20 มิถุนายน แต่การเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่งในภูมิภาค ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยของสหรัฐและไทยกว้างขึ้น รวมถึงกระแสเงินทุนไหลออกที่เร่งตัวอาจทำให้การรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีน้ำหนักต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่าเงินเฟ้อของไทยจะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ก็ตาม.-สำนักข่าวไทย