กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – แผนหนุนเชื้อเพลิงชีวภาพ “เอทานอล- ไบโอดีเซล” เตรียมปรับใหม่ลดต่ำลง หลังรถไฟฟ้าทั้งอีวี- ระบบรางเติบโต
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ.อยู่ระหว่างการปรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ใหม่ให้สอดรับกับแผนพัฒนากำลังการผลิตของประเทศ (PDP-2018) ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเดือนกันยายนนี้ โดยมีแนวโน้มจะลดสัดส่วนเป้าหมายการผลิตเชื้อเพลิงในภาคขนส่งจากพลังงานทดแทนลงจากเป้าหมายเดิมปี 2579 กำหนดการใช้เอทานอลอยู่ที่ 11.3 ล้านลิตรต่อวัน ไบโอดีเซลอยู่ที่ 14 ล้านลิตรต่อวัน เนื่องจากแนวโน้มการใช้น้ำมันภาคขนส่งจะเติบโตชะลอตัวจากนโยบายภาครัฐบาลที่มีเป้าหมายส่งเสริมการขนส่งไปสู่ระบบราง รถไฟฟ้าและ ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มากขึ้น
ทั้งนี้ การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและการประหยัดพลังงานภาคขนส่งที่ผ่านมาต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเหตุผลจากราคาน้ำมันที่ผันผวน โดย 2 -3 ปีที่ผ่านมาราคาเคยสูงสุดประมาณกว่า 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลแล้วลดต่ำสุดไปเหลือกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และขณะนี้กำลังสูงถึงระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ประกอบกับ โครงการระบบรของภาครัฐล่าช้ากว่าแผนส่งผลให้แผนอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่งปี2560 ต่ำกว่าแผนที่วางไว้ถึงประมาณร้อยละ 40-50 ขณะที่ภาคไฟฟ้าทำตามแผนได้ถึงร้อยละ 95
สำหรับแผนอนุรักษ์พลังงานหรือ EEP (ปี 2558-2579) ก็จะมีการปรับให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากขึ้นเช่นกัน โดยวันที่ 28 มิถุนายนนี้จะมีประชุมคณะกรรมการบูรณาการเพื่อการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งที่มีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อทบทวนแผนการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งใหม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวทางในแผน EEP โดยจะเพิ่มแนวทางส่งเสริมลดใช้พลังงานในภาคขนส่งทางน้ำและทางอากาศเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เน้นเฉพาะในภาคขนส่งทางบกเป็นหลัก เพื่อให้การประหยัดพลังงานตามแผน EEP เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ปีนี้ที่จะลดใช้พลังงานรวม 1,000 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ.- สำนักข่าวไทย