25 ก.ย. – หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องหลายพื้นที่ และมีการเตือนให้ประชาชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง ล่าสุดกรมชลประทานเร่งระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล เพื่อลดผลกระทบ
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาตรน้ำผ่านเขื่อนที่เพิ่มขึ้นทุก 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำสูงขึ้นประมาณ 25 เซนติเมตร ทำให้ต้องมีการบริหารจัดการตั้งแต่เหนือเขื่อน โดยนำน้ำเข้า ลำน้ำและคลองชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและขวาของเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อลดปริมาตรน้ำก่อน แต่ยืนยันจะยังไม่เพิ่มปริมาตรการระบายน้ำท้ายเขื่อน ทำให้ขณะนี้มีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำ 2 อำเภอ คือ บางบาล และเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำเท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ กรมชลประทานเร่งควบคุมการระบายน้ำที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรับน้ำที่ยังคงไหลมาจากจังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากขณะนี้สถานีวัดปริมาตรน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 1,760 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมถึงทำการเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเปิดทางและร่นระยะเวลาในการระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาให้ไหลออกไปโดยเร็ว ป้องกันผลกระทบพื้นที่น้ำขัง และเตรียมรองรับน้ำระลอกใหม่ หากเกิดฝนตกหนักในระยะนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่แม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลมาถึงเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาท จะมีแม่น้ำสะแกกรังจากจังหวัดอุทัยธานี ไหลลงมาบรรจบ ทำให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนไหลผ่านสูงถึง 2,070 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และหากปล่อยให้ไหลผ่านเขื่อนไปปริมาตรเท่านี้ จะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาท้ายเขื่อนสูง ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่กำลังวางมาตรการป้องกันเพื่อให้ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด. -สำนักข่าวไทย