ชัวร์ก่อนแชร์ : 9 คุณประโยชน์ของชาเขียว จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ


22 สิงหาคม 2568

ตามที่มีการแชร์บทความว่า 9 คุณประโยชน์ของชาเขียว ที่คนลดน้ำหนักไม่ควรพลาด เช่น ช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันสะสม ชะลอความเสื่อม คุมน้ำตาล ต้านโรคหลอดเลือดหัวใจ นั้น


บทสรุป : จริง แชร์ต่อได้

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ อาจารย์ ดร.พิมพ์อร สุขแล้ว สาขาอาหาร โภชนาการ และการกำหนดอาหาร ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

(สัมภาษณ์เมื่อ 15 กรกฎาคม 2568)


9 คุณประโยชน์ของชาเขียว เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารถูกส่งต่อกันอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล เรื่องราวเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมักได้รับความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ “ชาเขียว” ที่ถูกยกให้เป็นเครื่องดื่มมหัศจรรย์กับ 9 คุณประโยชน์ที่แชร์กันอย่างแพร่หลาย แต่ข้อมูลเหล่านั้นจะจริงเท็จมากน้อยเพียงใด บทความนี้จะพาไปเจาะลึกและตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณได้บริโภคชาเขียวอย่างเข้าใจและได้รับประโยชน์สูงสุด

1. ด้านการลดน้ำหนักและการเผาผลาญ จริงหรือ ?

  • เพิ่มอุณหภูมิร่างกายและเผาผลาญพลังงาน ผู้เชี่ยวชาญชี้แจงว่า ชาเขียวไม่ได้เพิ่มอุณหภูมิร่างกายโดยตรง แต่มีส่วนช่วย เพิ่มอัตราการเผาผลาญ (Metabolism) โดยกระตุ้นให้ร่างกายนำไขมันที่สะสมอยู่ออกมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยในเรื่องนี้ยังมีความหลากหลายและผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
  • ลดการสะสมของไขมันและคอเลสเตอรอล ข้อนี้มีส่วนจริง ชาเขียวสามารถช่วยลดการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังและไขมันในช่องท้องได้ นอกจากนี้ สารสำคัญอย่าง EGCG (Epigallocatechin gallate) ในชาเขียวยังมีฤทธิ์ช่วยลดระดับ “คอเลสเตอรอลชนิดเลว” (LDL) โดยการสนับสนุนการทำงานของเอนไซม์ในตับที่ทำหน้าที่ทำลายคอเลสเตอรอล แต่กลไกนี้ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับการลดน้ำหนักโดยรวม

2. ด้านการต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย จริงหรือ ?

  • ต่อต้านอนุมูลอิสระและชะลอความเสื่อมของเซลล์ ข้อนี้เป็นเรื่องจริง ชาเขียวอุดมไปด้วย “โพลีฟีนอล” (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมในร่างกายและลดความเสี่ยงในการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง

3. ด้านการควบคุมระดับน้ำตาลและสุขภาพหัวใจ จริงหรือ ?

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เป็นเรื่องจริง สารโพลีฟีนอลในชาเขียวสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ “แอลฟา-อะไมเลส” (Alpha-amylase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ย่อยแป้ง ทำให้การดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดลดลงและช้าลง แต่ต้องย้ำว่าชาเขียวเป็นเพียง ตัวช่วยเสริม ไม่สามารถใช้ทดแทนยารักษาเบาหวานได้
  • ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นเรื่องจริงเช่นกัน คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของชาเขียวช่วยลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันเลว (LDL Oxidation) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดคราบพลัคอุดตันในหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด

4. ด้านการทำงานของสมองและความดันโลหิต จริงหรือ ?

  • ควบคุมการทำงานของสมองและความดันโลหิต มีงานวิจัยสนับสนุนว่าการดื่มชาเขียวสามารถช่วยควบคุมความดันโลหิตในผู้ที่มีสุขภาพดีได้ นอกจากนี้ สาร “แอล-ธีอะนีน” (L-theanine) ที่พบในชาเขียวยังมีคุณสมบัติช่วยให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และส่งเสริมการนอนหลับที่ดี โดยไม่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทรุนแรงเท่าคาเฟอีนในกาแฟ
  • ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ มีงานวิจัยชี้ว่าการดื่มชาเขียวอาจช่วยส่งเสริม การทำงานของสมองในด้านการรับรู้ (Cognitive Function) ได้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการป้องกันโรคอัลไซเมอร์โดยตรง และไม่สามารถใช้ทดแทนการรักษาทางการแพทย์

5. ด้านสุขภาพช่องปากและกระดูก จริงหรือ ?

  • ป้องกันฟันผุและโรคกระดูกพรุน ชาเขียวมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุและคราบพลัคได้ ส่วนเรื่องโรคกระดูกพรุน แม้จะมีบางงานวิจัยที่เชื่อมโยงกับการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก แต่ก็ต้องพิจารณาถึงปริมาณคาเฟอีนที่อาจส่งผลกระทบได้เช่นกัน
  • ลดปัญหากลิ่นปาก ข้อนี้เป็นเรื่องจริง การดื่มชาเขียวช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นปากได้

ข้อแนะนำเพื่อการบริโภคชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุด จริงหรือ ?

แม้ว่าคุณประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาเขียวจะเป็นเรื่องจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้การบริโภคเกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัย

  • ปริมาณที่เหมาะสม : แนะนำให้ดื่มวันละ 3-5 ถ้วย แต่เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากคาเฟอีนที่มากเกินไป การดื่ม 2-3 ถ้วยต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
  • เลือกดื่มแบบไม่เติมน้ำตาล : เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเต็มที่ ควรดื่มชาเขียวที่ไม่เติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานใด ๆ
  • เป็นเพียงส่วนเสริมของวิถีชีวิตสุขภาพดี : ชาเขียวควรถูกมองว่าเป็น “อาหารเสริม” ไม่ใช่ “ยารักษาโรค” การจะมีสุขภาพที่ดีได้ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยรวมและการออกกำลังกายควบคู่กันไป
  • ปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม : สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพราะชาเขียวอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิดและส่งผลต่อการดูดซึมได้

สรุป : ข้อมูลที่แชร์กันเกี่ยวกับ 9 คุณประโยชน์ของชาเขียวนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริงและมีงานวิจัยรองรับ ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง แต่การจะได้รับประโยชน์สูงสุดนั้น ต้องบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เลือกดื่มในรูปแบบที่ไม่หวาน และที่สำคัญที่สุดคือต้องเข้าใจว่าชาเขียวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพองค์รวมเท่านั้น

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
ตรวจสอบบทความโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ติดตามชมรายการชัวร์ก่อนแชร์ : 9 คุณประโยชน์ของชาเขียว จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]