เสนอตั้งชุดสอบวินัยร้ายแรงอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่

สุราษฎร์ธานี 8 มิ.ย.-  ที่ปรึกษา รมว.ศธ.เกาะติดปัญหาร้องเรียนโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ได้ฟังข้อมูลเพิ่มจากครู-จนท. ด้าน สพป.สุราษฎร์ฯ เขต 2 สรุปผลสอบแล้วพบอดีต ผอ.ทำผิดวินัยร้ายแรง 5 ข้อ เสนอศึกษาธิการจังหวัดตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ขณะที่ ป.ป.ช.จังหวัดเดินหน้าหาทุจริตอาหารกลางวันขนมจีนคลุกน้ำปลา มั่นใจ 25 มิ.ย. ส่งถึง ป.ป.ช.ภาค 8 ตั้งชุดสอบเช่นกัน


พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  พร้อมนิติกรกระทรวงฯ  และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันนี้ (8 มิ.ย.) เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ปกครองร้องเรียนปัญหาของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ มีทั้งเรื่องอาหารกลางวัน และอื่น ๆ รวม 10 ข้อ ซึ่งอยู่ระหว่างคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุราษฎร์ธานี เขต 2 และมีกำหนดแล้วเสร็จในวันนี้ โดยคณะของ พล.ท.โกศล ได้พูดคุยให้กับกำลังใจครูและบุคลากรของโรงเรียน พร้อมเปิดโอกาสให้ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งมีนายชุมพล ศรีสังข์  ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายประทีป ทองด้วง ผู้อำนวยการ สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 ร่วมพูดคุยด้วย

ปรากฏว่าระหว่างพูดคุยกับครูและเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตรวจรับพัสดุอย่างน้อย 4 คน ต่างร่ำไห้และขอความช่วยเหลือจาก พล.ท.โกศล  เนื่องจากมีหลักฐานว่าเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ลงนามในรายการจัดซื้อจัดจ้างหลายโครงการที่อยู่ในข้อสงสัยว่าจะเป็นการทุจริต ประกอบกับที่ผ่านมาทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดด้วย แต่ถ้าไม่ยินยอมเซ็นต์รับงาน ผู้อำนวยการโรงเรียนจะไม่เซ็นต์ประเมินให้ เพราะครูส่วนใหญ่เป็นข้าราชการบรรจุใหม่ที่ต้องผ่านการประเมินเกือบทั้งหมด จึงไม่มีใครกล้าร้องเรียน กระทั่งมีผู้ปกครองทนไม่ไหวเข้ามาเคลื่อนไหวดังกล่าว ขณะนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย และยังกลัวว่าต้องได้รับโทษจากกรณีดังกล่าวด้วย 


พล.ท.โกศล รับปากว่า จะประสานไปยัง ป.ป.ช.เพื่อให้สอบปากคำทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด โดยครูจะต้องให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ต้องทำไป เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือ และกำชับให้ข้าราชการครูทุกคนให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง  อีกทั้งยังมอบหมายให้ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีประสานผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าประจำที่โรงเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัย

พล.ท.โกศล  กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 ได้สอบสวนแล้วเสร็จ พร้อมสรุปสำนวนและเอกสารหลักฐาน รวมกว่า  600 หน้า เสนอต่อศึกษาธิการจังหวัด เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนความผิดวินัยร้ายแรงของนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่แล้ว  เบื้องต้นได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบข้อร้องเรียนของผู้ปกครอง จำนวน 10 ข้อ พบว่านายสมเชาว์ มีพฤติกรรมทุจริต และมีความผิดวินัยร้ายแรง 5 ข้อ คือ 1.โครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้า 2.โครงการก่อสร้างถนน 3.โครงการอาหารกลางวัน 4.การขายผลผลิตปาล์มน้ำมันจากสวนของโรงเรียน  และ 5.การจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม โดยเฉพาะน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยว บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องดังกล่าวเป็นคำสั่งเด็ดขาด ห้ามมิให้จัดจำหน่าย หรือหาผลประโยชน์จากการจำหน่ายน้ำอัดลม เนื่องจากมีผลต่อสุขอนามัยของเด็ก ถือว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรงด้วย ซึ่งจะต้องดำเนินการทั้งทางอาญาและแพ่งด้วย เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับพื้นที่อื่น โดยทางอาญาและเพ่งนั้น หน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัดจะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และเบื้องต้นทางต้นสังกัดคงต้องพิจารณาให้ออกไว้ก่อนตามระเบียบของราชการ 

ด้านนายพล ศรัทโธ  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสุราษฎร์  กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก เป็นครูและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน รวมทั้งรวบรวมพยานเอกสารถือว่าเพียงพอแล้ว ตอนนี้ทำงานแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยขออนุมัติขยายเวลาเพื่อความเน่นหนาของสำนวน และทันเสนอต่อคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เพื่อขออนุมัติแต่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายในวันที่ 25 มิ.ย.นี้อย่างแน่นอน ส่วนคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 ที่ตรวจสอบพบความผิดวินัยร้ายแรงในประเด็นอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันนั้น ทาง ป.ป.ช. จะรอรับเรื่องร้องเรียนจากต้นสังกัด เนื่องจากไม่ได้เป็นความผิดเร่งด่วนที่ ป.ป.ช.จะใช้อำนาจเข้าตรวจได้ทันทีเช่นเดียวกับโครงการอาหารกลางวัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย