พิจิตร 7 มิ.ย.-สลด! คุณแม่วัย 27 ปี ตั้งครรภ์แต่ทารกที่มีน้ำหนักกว่า 5.3 กก. เสียชีวิตในครรภ์ระหว่างผ่าคลอด ญาติคาใจแห่ศพทารกร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร ขอความเป็นธรรม
นายสมศักดิ์ ทองรอด พร้อมสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นราษฎร ม.7 บ.คลองคู้ ต.ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร นำศพทารกแรกคลอดน้ำหนักกว่า 5.3 กิโลกรัม และเป็นบุตรชายของตนเองใส่ในโลงศพเดินทางมายังศูนย์ราชการจังหวัดพิจิตร เพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร โดยนายสมศักดิ์ บอกว่า ภรรยาของตนเองวัย 27 ปี มีกำหนดคลอดบุตรชายที่โรงพยาบาลพิจิตรเมื่อวานนี้ เวลา 8.00 น. แต่ระหว่างที่ภรรยาจะเข้ารับการผ่าคลอด บุตรชายกลับเสียชีวิต จึงได้ร้องขอให้แพทย์ผ่าศพออกจากครรภ์ภรรยา แต่แพทย์ไม่ได้ดำเนินการให้ จึงตั้งข้อสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นตัวแทนของศูนย์ดำรงธรรม ได้ประสาน ผอ.โรงพยาบาลพิจิตร และทีมแพทย์ผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยนายแพทย์วิริยะ เอี้ยวประเสริฐ ผอ.โรงพยาบาลพิจิตร ชี้แจงว่า กรณีผู้ป่วยรายดังกล่าวมีโรคประจำตัวคือโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและโรคเบาหวาน ทำให้ทารกผิดปกติ มีน้ำหนักมากกว่าทารกทั่วไป กระทั่งพบว่าเสียชีวิตในครรภ์ ส่วนสาเหตุที่ไม่ผ่าศพทารกออกจากครรภ์ในขณะนั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงที่มารดาจะเสียชีวิต จึงรอเวลา ก่อนดำเนินการผ่าศพออกจากครรภ์เมื่อ 02.00 น. โดยส่วนหนึ่งมาจากการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่างเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและพ่อของเด็ก จนมีการนำโลงศพมาร้องเรียน ทั้งนี้ ฝ่ายนิติกรของโรงพยาบาล ได้เจรจากับฝ่ายผู้เสียหาย เพื่อให้การเยียวยาและช่วยเหลือตามระเบียบของกฎหมาย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป.-สำนักข่าวไทย