ยอดส่งออกอัญมณี 4 เดือนไม่รวมทองคำโตขึ้น

กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – สถาบันอัญมณีฯ เผยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ 4 เดือนไม่รวมทองคำ เพิ่มร้อยละ  6.46 มีเครื่องประดับทองเป็นดาวเด่นส่งออกเพิ่มขึ้น ตามด้วยแพลทินัม เพชร พลอย และเครื่องประดับเทียม


นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยไปประเทศต่าง ๆ ในช่วง 4 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-เม.ย.) มีมูลค่า 4,181.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ  6.04 แต่หากหักการส่งออกทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปจะมีมูลค่า 2,540.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.46 ซึ่งถือว่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับยังมีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะทองคำการส่งออกจะเป็นไปตามราคาตลาดโลก หากราคาสูงขึ้นก็จะมีการส่งออกมาก แต่หากราคาลดลงก็จะส่งออกน้อย 

สำหรับสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องประดับทอง เพิ่มขึ้นร้อยละ  13.46 เครื่องประดับแพลทินัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.69 เพชรเจียระไน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.08 พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.96 พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.91 และเครื่องประดับเทียม เพิ่มขึ้นร้อยละ  19.79 ส่วนเครื่องประดับเงิน ลดลงร้อยละ  1.84 


ทั้งนี้ ตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับที่ไม่รวมทองคำส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ฮ่องกง เพิ่มร้อยละ  0.17 สหภาพยุโรป เพิ่มร้อยละ  8.75 สหรัฐเพิ่มร้อยละ 10.60 กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพิ่มร้อยละ 19.52 อินเดีย เพิ่มร้อยละ  29.67 ญี่ปุ่น เพิ่มร้อยละ 2.87 จีนเพิ่มร้อยละ  13.27 อาเซียน เพิ่มร้อยละ 1.57 รัสเซียและกลุ่ม CIS เพิ่มร้อยละ 30.48 โดยตลาดส่งออกที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและน่าจับตา คือ สหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐ ตะวันออกกลาง อินเดีย ญี่ปุ่น จีน อาเซียน บรูไน รัสเซีย และ CIS  

สำหรับแนวโน้มการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ คาดว่าจะยังคงส่งออกได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้า แต่ต้องจับตาสงครามการค้าที่นำโดยสหรัฐที่นอกจากจะใช้มาตรการกับจีน ยังมีแนวโน้มใช้กับประเทศอื่น ๆ รวมถึงปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐ และอียูที่เริ่มมีความตรึงเครียด ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและวางแผนรับมือและหากลยุทธ์ส่งออกใหม่ ๆ เพื่อช่วงชิงตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดคู่ค้าเดิมให้ได้ โดยขอให้ผู้ส่งออกหันมาใช้นวัตกรรมออกแบบสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตนเอง รวมถึงเร่งบุกตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตดี เช่น รัสเซียและกลุ่มประเทศในเครือรัฐเอกราช และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อีกทั้งควรบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยการซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยได้เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย