คาดส่งออกอาหารปีนี้แตะ 1 ล้านล้านบาท

กรุงเทพฯ  7 มิ.ย. – 3 องค์กรเผย 4 เดือนแรกส่งออกอาหารไทยยังขยายตัวดี  แต่เงินบาทแข็งค่า ทำให้ส่งออกในรูปเงินบาทเติบโตเพียงร้อยละ 1.5 คาดทั้งปีส่งออกได้มากกว่า 1 ล้านล้านบาท  


นายยงวุฒิ  เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกอาหารไทยปี 2561 โดยกล่าวว่า การส่งออกสินค้าอาหารของไทยช่วง 4 เดือนแรกปี 2561 ขยายตัวสูงขึ้นมากในรูปดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในรูปเงินบาทขยายตัวต่ำมีปริมาณ 10.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 มีมูลค่า 318,577 ล้านบาท หรือ 10,103 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 และร้อยละ 13.2 ในรูปเงินบาทและในรูปดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ 

สำหรับสินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ ข้าว ไก่ มันสำปะหลัง เครื่องปรุงรส และผลิตภัณฑ์มะพร้าว สินค้าที่มีการส่งออกหดตัวลงทั้งปริมาณและมูลค่า ได้แก่ กุ้งและผลิตภัณฑ์สับปะรด เนื่องจากตลาดเกิดการแข่งขันที่รุนแรง สหรัฐนำเข้ากุ้งจากอินเดีย อินโดนีเซีย และเอกวาดอร์มากขึ้น ส่วนสับปะรดไทยต้องเผชิญคู่แข่งอย่างฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ที่มีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นเช่นกัน


ส่วนกลุ่มประเทศ CLMV ยังคงเป็นตลาดส่งออกอาหารอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนส่งออกร้อยละ 15.4 รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น อาเซียนเดิม สหรัฐอเมริกา แอฟริกา จีน สหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย  สหราชอาณาจักร และเอเชียใต้ โดยตลาดที่มีการขยายตัวโดดเด่น คือ กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ มีอัตราการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 110.8 จากการส่งออกน้ำมันพืชไปยังประเทศอินเดียเป็นหลัก รองลงมา ได้แก่ จีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.2 จากการกลับมานำเข้ามันสำปะหลังจากไทย แอฟริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7 จากการส่งออกข้าวเป็นหลัก และตลาดอาเซียนเดิมเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 จากการส่งออกข้าว น้ำตาลทราย และแป้งมันสำปะหลังที่เพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ภาพรวมการส่งออกอาหารไทย 6 เดือนแรกของปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวสูงขึ้นมากในรูปดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในรูปเงินบาทขยายตัวต่ำ เพราะการแข็งค่าของเงินบาทยังคงส่งผลกระทบต่อการค้าในช่วงดังกล่าว ประเมินว่าการส่งออกจะมีมูลค่า 507,844 ล้านบาท หรือ 15,850  ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 และร้อยละ 10.3 ในรูปเงินบาทและในรูปดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

นายยงวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารไทย 6 เดือนหลังของปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยการส่งออกเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรก ส่วนการผลิตและการบริโภคขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วยอัตราที่ลดลง แนวโน้มการผลิตและการบริโภค คาดว่าจะขยายตัวต่ำกว่าครึ่งปีแรกเล็กน้อย ประเมินว่าจะมีมูลค่าส่งออก 562,156 ล้านบาท หรือ 17,150 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 และร้อยละ 9.8 ในรูปเงินบาทและในรูปดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ 


ทั้งนี้ ในภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารไทยทั้งปี 2561 การส่งออกคาดว่าจะมีมูลค่า 1,070,000 ล้านบาท หรือ 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 และร้อยละ 10.0 ในรูปเงินบาทและในรูปดอลลาร์ ตามลำดับ คาดว่าสินค้าที่จะขยายตัวดีในรูปดอลลาร์ ได้แก่ ข้าว ไก่ ปลาทูน่ากระป๋อง อาหารกึ่งสำเร็จรูป แป้งมันสำปะหลัง เครื่องปรุงรส และผลิตภัณฑ์มะพร้าว ส่วนสินค้ากุ้ง น้ำตาลทราย และสับปะรด มีแนวโน้มส่งออกลดลง โดยครึ่งปีแรกภาคธุรกิจมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท ส่วนครึ่งปีหลังการผลิตและการบริโภคจะถูกแรงกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การส่งออกครึ่งปีหลังจะคลายตัวจากการแข็งค่าของเงินบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม เชื่อหวังดิสเครดิต

กทม.18 ส.ค.-“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่งสนามบินหาดใหญ่ เชื่อหวังดิสเครดิต นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่มีการเผยแพร่ทำหนังสือด่วนลงนามโดยนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เนื้อหาลักษณะจัดคิวนายอำเภอ ต้อนรับและส่ง นายเดชอิศม์ สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ว่า ได้ตรวจสอบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว พบว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าไม่มีไม่ใช่ลายเซ็นของท่าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้มีใครมารับมาส่ง เพราะเป็น สส.สงขลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาต้อนรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นกระบวนการ ต้องการดิสเครดิตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอาจมีความพยายามต้องการให้มาถึงตนเองด้วย.-(1)319.-สำนักข่าวไทย

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

กต.โต้ท่าทีกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – โฆษก กต. โต้ 4 ข้อ เกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมานั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ 1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.68) โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน 2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป 3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันนี้ ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ […]