กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบปรับเลื่อนกรอบเวลาการประมูลแหล่งปิโตรเลียมหมดอายุแหล่งเอราวัณและบงกช จากเดิม มิ.ย.60 เป็น ก.ย.60 ยืนยันไม่มีผลกระทบ พร้อมอนุมัติสัญญาซื้อแอลเอ็นจีระยะยาวจากเชลล์และบีพี เริ่มนำเข้ากลางปี 60 ประหยัดเงินกว่าแสนล้านบาท ส่วนโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์การเกษตรลดเงินอุดหนุน FIT จาก 5.66 บาท/หน่วย เหลือ 4.12 บาท/หน่วย คาดเปิดรับซื้อรอบ 2 รวม 520 เมกะวัตต์ ปลายปี 59
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากการขอขยายระยะเวลาในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จากเดิมที่กำหนดเสร็จภายในวันที่ 2 สิงหาคม 2559 และได้ขอขยายระยะเวลามา 2 เดือน โดยจะครบกำหนดขยายระยะเวลาครั้งที่ 2 วันที่ 21 ตุลาคม 2559 ส่งผลให้การดำเนินงานเตรียมการเพื่อเปิดประมูลแข่งขันยื่นข้อเสนอเป็นการทั่วไปและคัดเลือกผู้ดำเนินการก่อนที่สัมปทานจะสิ้นสุดอายุ ไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จได้ทันภายใน 1 ปี ตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ดังนั้น ที่ประชุม กพช. จึงเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานขยายระยะเวลาการคัดเลือกผู้ดำเนินการ โดยการเปิดประมูลแข่งขันยื่นข้อเสนอเป็นการทั่วไปให้เสร็จภายในเดือนกันยายน 2560
“เดิม กพช.กำหนดให้ประมูลได้รายชื่อเดือนมิถุนายน 2560 แต่เมื่อ สนช.ล่าช้าก็ต้องเลื่อนไปเป็นเดือนกันยายน 2560 ซึ่งทั้งเอกชนและภาครัฐยังยืนยันว่าอยู่ในกรอบเวลาเดิมไม่กระทบ แต่หากช้าไปกว่านี้ หรือรอไปจนมีรัฐบาลชุดใหม่ก็จะล่าช้า เอกชนก็จะไม่กล้าลงทุน มีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานใน 2 แหล่งทั้งแหล่งเอราวัณและบงกชที่จะหมดอายุสัมปทานปี 2565 และ 2566 ซึ่งหากทุกอย่างเสร็จสิ้นก่อน 5 ปี หรือภายในปี 2560 เอกชนไม่ว่าจะเป็นรายเก่าหรือใหม่ก็จะลงทุนสำรวจและผลิตทันในช่วงรอยต่อ” รมว.พลังงาน กล่าว
รมว.พลังงาน ยังกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กพช.ได้รับทราบผลการเจรจาล่าสุดในการปรับลดราคาและทบทวนเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในร่างสัญญาซื้อขาย LNG ระยะยาว (LNG SPA) ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัท SHELL EASTERN TRADING (PTE) LTD และบริษัท BP SINGAPORE PTE. LIMITED ในปริมาณรายละ 1 ล้านตันต่อปี (รวม 2 ล้านตันต่อปี) โดยระยะเวลาสัญญา 15 ปี และ 20 ปีตามลำดับ และสามารถต่อเวลาสัญญาได้อีก 5 ปี โดยการเจรจาลดราคา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ตลาดเป็นของผู้ซื้อ ซึ่งกรณีที่ราคาน้ำมันอยู่ระดับ 45-55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาแอลเอ็นจีจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู โดยมูลค่าที่ปรับลดลงตลอดอายุสัญญา รวมกันทั้ง 2สัญญาประมาณ 115,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 20 ทั้งนี้ กพช.อนุมัติให้ ปตท. สามารถลงนามในสัญญาซื้อขาย LNG SPA ภายหลังจากเงื่อนไขที่มีการเปลี่ยนแปลงในร่างสัญญาฯ ที่จะต้องผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดและการนำเสนอ ครม.ตามขั้นตอนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว โดยปริมาณนำเข้าล็อตแรกจะเข้ามาได้กลางปี 2560
“กระทรวงพลังงานกำลังทบทวนแผนพลังงาน 20 ปี ดูว่าก๊าซจากแหล่งอ่าวไทย เมียนมาร์ เจดีเอ ลดลงเท่าไหร่ ต้องนำเข้าแอลเอ็นจีมากน้อยเพียงใด ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าก๊าซจะขาดแคลนและไฟดับ ส่วนโครงการให้ กฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาและจะเสนอ กพช.ครั้งต่อไป” รมว.พลังงานกล่าว
ที่ประชุม กพช.ยังเห็นชอบปรับลดอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ FiT สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์การเกษตร รอบที่ 2 ที่คาดว่าจะประกาศรับซื้อปลายปี 2559 ถึงต้นปี 2560 ซึ่งเหลือสัดส่วนอีก 520 เมกะวัตต์ จากรอบแรกที่รับซื้อไปแล้ว 280 เมกะวัตต์ โดยอัตรา FIT 25 ปี ลดจากเดิม 5.66 บาท/หน่วย เหลือ 4.12 บาท/หน่วย และในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้พรีเมียมก็จะอยู่ที่ 0.50 บาท/หน่วย ซึ่งการทบทวนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พบว่า ในปัจจุบันมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากราคาแผงเซลล์แสงอาทิตย์และค่าอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวลดลง จาก 56 ล้านบาท/เมกะวัตต์ เหลือ 42.2 ล้านบาท/เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ที่ประชุม กพช.เห็นชอบการกำหนดนโยบายการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าสำหรับผู้รับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนทิ้งในอัตรา 1 สตางค์/หน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้แต่ละเดือน เช่นเดียวกับพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่น ๆ เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจากลมร้อนทิ้งถือว่าเป็นการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และต้องได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จึงอยู่ในข่ายที่ต้องนำเงินส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าเช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย