บีโอไอรอดูท่าที ก.พลังงานกรณี “กัลฟ์”

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – กระทรวงพลังงานหารือเข้มหลังศาลปกครองมีคำสั่งตรวจสอบหรือกระทำด้วยวิธีใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่  ‘เครือกัลฟ์’ ที่ชนะประมูลไอพีพี  5,000 เมกะวัตต์  โดยเฉพาะหนังสือชะลอส่งเสริมการลงทุน โดยหารือเตรียมอุทธรณ์ ด้านบีโอไอขอดูท่าทีกระทรวงพลังงาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (20 ธ.ค.) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องกรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 ห้ามกระทรวงพลังงาน ตรวจสอบหรือกระทำด้วยวิธีใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่  “เครือกัลฟ์”  ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์  โดยแนวโน้มกระทรวงพลังงานอาจจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

ทั้งนี้ ปัญหากัลฟ์ เป็นเรื่องที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่แต่งตั้งโดยคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาตรวจสอบขั้นตอนประมูลไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์ และเห็นว่าการชนะประมูลในรัฐบาลชุดที่แล้วดำเนินการไม่เหมาะสม เพราะค่าไฟฟ้าที่ประมูลได้ไม่รวมค่าก่อสร้างสายส่งที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องลงทุนสร้างสายส่งไปรองรับอีกกว่า 7,000 ล้านบาท  โดย คตร.สั่งให้กระทรวงฯ เจรจากัลฟ์ เพื่อหาทางออก โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.อนันตพร ระบุว่าได้เจรจากับกัลฟ์ให้ลดหรือเลื่อนระยะเวลาก่อสร้างออกไปก่อนจากเดิม จะทยอยเข้าระบบปี 2564-2567


ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ในคดีที่บริษัท อินดิเพนเดนท์ เพาเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด และบริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด (เครือกัลฟ์) ผู้ฟ้องคดีกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา กรณีการดำเนินการประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-4 กรณีการตรวจสอบโครงการประมูลการรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (Independent Power Producers : IPP) จำนวน 5,000  เมกะวัตต์

โดยศาลปกครองกลางพิพากษาสรุปว่ากรณีที่ คตร.ตรวจสอบการประมูลโครงการดังกล่าว โดยให้ กกพ. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) สำนักงาน กกพ. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4) ดำเนินการนั้น สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบขององค์กรทางปกครอง แต่ต้องไม่ทำให้ “เครือกัลฟ์” เสียหาย กรณีนี้กระทรวงพลังงาน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้ชะลอการสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนแก่ “เครือกัลฟ์” จนข่าวรั่วไปถึงธนาคารไทยพาณิชย์และไม่ให้ปล่อยกู้เงินแก่  “เครือกัลฟ์” จึงทำให้เกิดความเสียหาย

จึงมีคำพิพากษาห้ามกระทรวงพลังงาน ตรวจสอบหรือกระทำด้วยวิธีใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ “เครือกัลฟ์” รวมทั้งห้ามนำผลการตรวจสอบการประมูลโครงการดังกล่าว ไปใช้หรืออ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นการภายในหรือต่อหน่วยงานอื่นที่ก่อให้เกิดความเสียหาย และให้กระทรวงพลังงานแจ้งยกเลิกหนังสือที่ส่งไปยัง บีโอไอเกี่ยวกับการชะลอการสนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนกับ “เครือกัลฟ์”


ด้านผู้เกี่ยวข้องทั้งนางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการบีโอไอ นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการ กกพ. ต่างระบุว่าไม่ต้องการออกความเห็นใด ๆ เพราะเป็นคำสั่งศาล อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูท่าทีทางกระทรวงพลังงานว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในส่วนของบีโอไอยังไม่ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนในโครงการดังกล่าว

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่าในแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติระยะยาว (2559-2579) ฉบับปรับปรุงใหม่ที่ได้ประเมินว่าความต้องการใช้ก๊าซฯ จะขยับขึ้นจาก 4,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 5,062 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  ไม่ได้มีการตัดลดโครงการของกัลฟ์แต่อย่างใด มีแต่ปรับปรุงบนสมมติฐานโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ และเทพา จังหวัดสงขลา ไม่สามารถก่อสร้างได้ตามแผน และแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนเดินหน้าได้เพียงร้อยละ 70 เท่านั้น ซึ่งในส่วนของกัลฟ์ 5,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้ก๊าซ 800-900 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน

นายกฯ ขีดเส้น 30 วัน ออกมาตรการคุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ

นายกฯ สั่ง พาณิชย์-ดิจิทัลฯ เข้ม 3 มาตรการ คุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศให้มีคุณภาพ ขีดเส้นให้เสร็จภายใน 30 วัน

“มาริษ” ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ร่อนหนังสือ​ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4 เจ็บ 1 ให้ยุติส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมยับยั้งชั่งใจ ป้องกันความขัดแย้งขยายตัว ขอคนไทยชะลอการเดินทางไปอิสราเอล-ตะวันออกกลาง