ศาลปกครอง 17 ก.ค.- ศาลปกครองกลางสั่งยกฟ้องในคดีที่กรรมการ กสทช. ยื่นฟ้องประธาน กสทช. ละเลยไม่ตั้ง คกก.สอบวินัย “ไตรรัตน์” จากปัญหานำเงินกองทุน กทปส.สนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์เผยแพร่สัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 เหตุ บอร์ด กสทช.ไม่มีอำนาจสั่งกรรมการสอบวินัย
ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กับพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้อง นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ที่ปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามมติ ที่ประชุม กสทช.เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2566 ที่ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กรณีเกิดปัญหาการนำเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) จำนวน 600,000,000 บาท สนับสนุนการซื้อลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่สัญญาณการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 เป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
ศาลให้เหตุผลว่า การดำเนินการทางวินัยกับนายไตรรัตน์ ต้องเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดให้เป็นอำนาจของเลขาธิการ กสทช. ที่จะพิจารณาสืบสวนและแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน กสทช. ในฐานะองค์กรคณะบุคคลไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะสั่งการให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการทางวินัยแก่พนักงานคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงได้โดยตรง มติของ กสทช. ในส่วนนี้ จึงเป็นมติที่เกินกว่าอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม เมื่อนายไตรรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. อยู่ในขณะนั้น ประธาน กสทช. จึงเป็นผู้มีอำนาจที่จะพิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ การที่ประธาน กสทช.ไม่ปฏิบัติตามมติของ กสทช. ในการประชุม ครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2566 ที่มีมติเห็นชอบให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยนายไตรรัตน์ ซึ่งเป็นมติที่ไม่มีอำนาจสั่งการได้โดยตรง จึงไม่เป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ จึงพิพากษายกฟ้อง -สำนักข่าวไทย