กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – มีผู้ประกอบการ 3 รายแล้ว จ่ายรวม 42 ล้านบาท ขอดูห้องข้อมูล “บงกช เอราวัณ” ก่อนยื่นประมูล 25 กันยายน โดยมิตซุยออยล์มั่นใจร่วมประมูลกับเชฟรอน จะแข่งขันกับรายอื่น ๆ ได้ และพร้อมจะกลับมาผลิตแหล่งบูรพาเดือนสิงหาคมนี้
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเปิดเวลา 3 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย.2561 ให้ผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (PQ) สำหรับการเข้าร่วมประมูลแหล่งปิโตรเลียมบงกช-เอราวัณ มายื่นเอกสารแสดงความจำนงในการเข้าถึงข้อมูล พร้อมชำระค่าเข้าร่วมประมูล และลงนามในสัญญาการรักษาความลับและการใช้ประโยชน์ข้อมูลที่ต้องการเข้าศึกษาข้อมูลเชิงลึกในห้องดาต้ารูมและรับมอบข้อมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยต้องจ่ายเงินแต่ละแหล่ง ๆ ละ 7 ล้านบาท โดยใครจ่ายก่อนจะได้เข้าห้องดาต้ารูมก่อน เพื่อศึกษาข้อมูลก่อนยื่นประมูลในวันที่ 25 กันยายนนี้
ปรากฏว่า เช้านี้ผู้ที่มายื่น 3 รายแรก ประกอบด้วย บริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd., มิตซุย บริษัท ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น จำกัด ซึ่งมาในฐานะพาร์ทเนอร์ของบริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd. และบริษัท PTTEP Energy Development Company Limited ซึ่งทั้ง 3 รายนี้ ยื่นขอดูข้อมูลทั้ง 2 แหล่ง แต่ยังไม่ระบุชัดเจนว่าจะยื่นประมูลทั้ง 2 แหล่งหรือไม่ โดย ปตท.สผ.ก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับเชฟรอนว่าจะร่วมกันประมูลในแหล่งเอราวัณด้วยกันหรือไม่ หากเจรจาไม่ลงตัว ในส่วนของ ปตท.สผ.และเชฟรอน ก็จะยื่นประมูลทั้ง 2 แหล่ง
นายมิโนรุ (ไมค์) ฟูกูดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซุยออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น คัมปะนี ลิมิเต็ด สาขากรุงเทพฯ กล่าวว่า บริษัท ร่วมทุนในแหล่งเอราวัณและลงทุนในไทยมา 45 ปี และจะร่วมกับเชฟรอนในการประมูลครั้งนี้ ซึ่งมั่นใจทั้งประสบการณ์และฐานะการเงินจะได้เปรียบในการประมูลแน่นอน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากระบบ สัมปทานมาเป็นระบบแบ่งปันผลผลิตนั้น นับเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้น และจะมีผลทำให้ผลตอบแทนของบริษัทอาจลดลงบ้าง
“แม้การประมูลรอบนี้จะมีการรายใหญ่ ๆ มาร่วมแข่งขัน แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานของริษัทและหุ้นส่วน คือ เชฟรอน รวมถึงการเงินที่แข็งแกร่ง ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถแข่งขันได้ในการประมูลครั้งนี้ ” นายฟูกูดะ กล่าว
นายฟูกูดะ กล่าวด้วยว่า ในส่วนแหล่งปิโตรเลียม บูรพา จ.สุโขทัย คาดว่าจะเริ่มกลับมาผลิตน้ำมันดิบประมาณ 500 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม 2561 หลังจากมีปัญหาด้านเทคนิคและหยุดผลิตไปตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2560 โดยยืนยันว่าแม้จะหยุดผลิตแต่การว่าจ้างพนักงานยังคงเหมือนเดิมและบริษัทก็ไม่ได้หยุด เพราะเรื่องราคาน้ำมันตกต่ำแต่อย่างใด เพียงแต่แหล่งบูรพานั้นเป็นแหล่งบนบกที่มีความลึกค่อนข้างสูงถึง 3 กิโลเมตร จึงมีปัญหาด้านเทคนิคในการผลิต และนอกจากนี้บริษัทยังพร้อมที่จะประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่ ที่กระทรวงพลังงานจะเปิดให้ยื่นแข่งขัน โดยรอเพียงว่าจะเปิดให้เมื่อใดเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย