คลัง 24 พ.ค. – คลังเผยผลจัดเก็บรายได้รัฐ 7 เดือนแรกของปีงบฯ 61 ที่ 1.29 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 60,500 ล้านบาท
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60 – เม.ย.61) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,293,908 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 60,598 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 โดยมีสาเหตุจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 30,444 และ 23,133 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.8 และ 21.5 ตามลำดับ ทั้งนี้ ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษียาสูบ และภาษีเงินได้นิติบุคคล
ส่วนเดือนเมษายน รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 218,126 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 21,717 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.1 สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 17.9 เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 20,276 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.7 สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 70.1 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนำส่งรายได้ของธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เร็วขึ้นกว่าที่ประมาณการไว้ และการนำส่งเงินปันผลของ บมจ.ปตท.สูงกว่าที่ประมาณการไว้ ประกอบกับการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นสูงกว่าประมาณการ 6,391 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.9
“ช่วงที่ผ่านมาการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิยังเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังประเมินไว้ สำหรับช่วงที่เหลือของปีงบประมาณกระทรวงการคลังจะกำกับดูแลให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” นางสาวกุลยา.-สำนักข่าวไทย