กนช.เห็นชอบ 5 แผนงานสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

ทำเนียบฯ 21 พ.ค.-ที่ประชุม กนช.เห็นชอบ 5 แผนงานของโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนรับสถานการณ์น้ำหลากในทุกจังหวัด


นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2561 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบแผนงานสำคัญ ๆ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.การปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนงานโครงการและงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ ซึ่งงบประมาณบูรณาการด้านน้ำ ปี 2562 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 63,271 ล้านบาท แต่ยังมีบางหน่วยงานนำเสนอแผนงานด้านน้ำเพื่อขอรับงบประมาณจากแหล่งเงินอื่น ๆ ที่ประชุมจึงมีมติให้ สทนช. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ พิจารณาแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนงานและโครงการจากทุกแหล่งเงิน เพื่อลดความซ้ำซ้อนกับแผนงานอื่น

นายสมเกียรติ กล่าวว่า 2.การขับเคลื่อนแผนงานโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ปี 2562-2565 ที่สามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมด 30 โครงการ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำรวมทั้งหมดได้ 4,320 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ได้รับประโยชน์รวม 4.5 ล้านไร่  3.โครงการระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ จ.หนองบัวลำภู เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูก วงเงินประมาณ 210.82 ล้านบาท โดยให้ จ.หนองบัวลำภู ไปดำเนินการปรับแผนใช้เงินเหลือจ่ายของหน่วยงานในเบื้องต้นก่อน แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้งบกลางให้ประสานกับสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงพลังงานสนับสนุนระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์


นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า 4.การปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2550 โดยให้ สทนช.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติฉบับใหม่ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป และ 5.การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ด้านนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยให้ สทนช.เป็นหน่วยงานหลักด้านนโยบายในการประสานงานการบริหารจัดการน้ำกับองค์การนานาชาติ และกระจายภารกิจที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมทุกหน่วยงานอย่างเป็นเอกภาพ

นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า การเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากในปีนี้ ที่ประชุมได้สั่งการให้กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำหลาก โดยให้ สทนช.ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการการบริหารจัดการน้ำในฤดูน้ำหลาก การจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ ตลอดจนการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ภาคประชาชน ในปีนี้ สทนช.เตรียมจัดงาน “การเตรียมความพร้อมจัดการน้ำหลาก ปี 2561” ในวันที่ 4 มิถุนายน 2561 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดนิทรรศการเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การบูรณาการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากปีนี้

ขณะที่ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้แหล่งน้ำจำนวน 44 แห่งทั่วประเทศ มีปริมาณการกักเก็บเกินกว่าร้อยละ 80 ดังนั้นกรมชลประทานจึงได้ระบายน้ำออกจากแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ด้านการเพาะปลูกควบคู่กัน ซึ่งคาดว่าภายในต้นเดือนมิถุนายน จะทำให้ปริมาณการกักเก็บน้ำในแหล่งน้ำทั้ง 44 แหล่ง มีปริมาณการกักเก็บน้อยกว่า ร้อยละ 80 ส่วนสถานการณ์การเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำ มีการเพาะปลูกแล้วเต็มที่พื้นที่ ขณะที่พื้นที่ 12 ทุ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพาะปลูกไปแล้วกว่า ร้อยละ 26 ของพื้นที่ 1.15 ล้านไร่ ดังนั้นพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา รวมกว่า 1.5 ล้านไร่ มีการเพาะปลูกไปแล้วร้อยละ 45 คาดว่าต้นเดือนมิถุนายนนี้จะมีการเพาะปลูกเต็มพื้นที่


“นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์ความเสี่ยงในการเกิดอุทกภัยในทุกพื้นที่ โดยกำหนดสร้างทางเลือกที่จะครอบคลุมสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อทำให้ทราบว่าตั้งแต่มิถุนายน-ตุลาคม พื้นที่ใดจะได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งผลการวิเคราะห์จะให้ผลในทุกมิติ ทั้งเรื่องช่วงเวลาและปริมาณน้ำที่จะล้นตลิ่ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ให้กรมชลประทานเพิ่มเรื่องการวิเคราะห์พายุที่จะเข้ามามีผลกระทบกับพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เต้นฮากา

สส.เต้นฮากา ประท้วงในสภานิวซีแลนด์

ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภานิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ต้องระงับชั่วคราว หลังจากที่สมาชิกสภาหลายคนซึ่งเป็นชนเผ่าเมารี ได้ลุกขึ้นเต้นฮากา (haka) ขัดขวางการลงนามในกฎหมาย

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

จ่อชงหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป

รมว.คลัง รับเตรียมเสนอหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลัง “ทักษิณ” เปรยบนเวทีปราศรัย จ.อุดรธานี ชี้ใช้งบไม่มาก ยืนยันไม่ทับสิทธิกลุ่มเปราะบางเฟสแรก บอกมีเฟส 2-3

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

ข่าวแนะนำ

คึกคัก ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ

เริ่มแล้ว งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณราชวราราม ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมคึกคัก มีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น