กรมสบส.11 พ.ค.-สบส.เตือนสถานพยาบาลนำเข้าแพทย์ต่างประเทศมาให้บริการโดยพลการ ผิดกฎหมายเข้าข่ายใช้หมอเถื่อน มีโทษทั้งผู้ดำเนิน การและหมอเถื่อน ชี้จะต้องสอบและได้รับใบประกอบวิชาชีพของไทยจึงมีสิทธิให้บริการ
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)กล่าวว่า ขณะนี้บริการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับความงามของประเทศไทย ได้รับความนิยมจากประชาชนและมีอัตราขยายตัวต่อเนื่อง สถานพยาบาลหลายแห่งจึงมีการแข่งขันกันนั้น กรม สบส.ขอเน้นย้ำว่า กรณีการนำแพทย์จากต่างประเทศมาให้บริการในสถานพยาบาลของไทย ไม่ว่าจะให้บริการประจำหรือไม่ประจำ จะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 โดยต้องแจ้งขออนุญาตกับกรมสบส.หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมทั้ง แพทย์จากต่างประเทศต้องได้รับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภาก่อนจึงจะมีสิทธิให้บริการในสถานพยาบาลของไทย
อย่างไรก็ตามปัจจุบันจากข้อมูลของแพทยสภา พบว่า ยังไม่มีแพทย์จากต่างประเทศรายใดได้รับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา ดังนั้น หากพบว่าสถานพยาบาลแห่งใดลักลอบใช้แพทย์จากต่างประเทศมาเป็นผู้ให้บริการ ทั้งการรักษาพยาบาล หรือเสริมความงาม จะมีความผิดตามกฎหมายฐานใช้หมอเถื่อน
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า บทลงโทษของสถานพยาบาลที่มีการนำหมอเถื่อนมาให้บริการนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. แพทย์ผู้ดำเนินการจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐานปล่อยให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่แพทย์มาดำเนินการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 2.หมอเถื่อนมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มีโทษจำคุกไม่เกิน3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้กำชับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มคลินิก ตรวจสอบเฝ้าระวังสถานพยาบาลเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครฯ ที่มีกว่า 6,000 แห่งอย่างต่อเนื่อง และหากประชาชนพบการให้บริการโดยแพทย์จากต่างประเทศขอให้ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นหมอเถื่อนและหลีกเลี่ยงไม่รับบริการ หากอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้แจ้งมาที่กรมสบส.หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18822 หรือ 18618 หรือทางเฟซบุ๊ก : สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. กระทรวงสาธารณสุข ในวันและเวลาราชการ
ส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับสถานพยาบาลและหมอเถื่อนรายดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย