เมืองทอง 10 พ.ค. – “สมคิด” มอบ คลัง-ธปท.คุยกับสภาวิชาชีพบัญชีหาข้อสรุปการใช้มาตรฐาน IFRS9 ย้ำไม่แทรกแซง นายแบงก์ห่วงเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ต้องการให้เลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานทางบัญชีใหม่ หรือ IFRS9 ที่จะเริ่มบังคับใช้ 1 มกราคม 2562 ออกไปเป็นปี 2565 ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาวิชาชีพทางบัญชี หารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ไม่ใช่การแทรกแซง โดยให้นโยบายว่าการกำหนดมาตรฐานทางบัญชีต้องดูความเป็นจริงและเหมาะสมกับประเทศไทย แม้มาตรฐานดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ดี การบังคับใช้ก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัว และอย่าไปบังคับ ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะเศรษฐกิจไทยเพิ่งจะฟื้นตัว และยังต้องมีการพัฒนาอีกมาก
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์มีความพร้อมใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ซึ่งการบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบกับธนาคารพาณิชย์เท่านั้น แต่อาจกระทบในวงกว้าง เนื่องจากระบบบัญชีใหม่จะมีการสำรองที่ครอบคลุมมากขึ้น ทำให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณาปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงรวมถึงกลุ่มเอสเอ็มอี
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ได้ตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อศึกษาถึงผลดีผลเสียต่าง ๆ โดยจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้และทาง กกบ.จะนัดประชุมเดือนมิถุนายนนี้ แต่ยังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาสรุปเรื่องนี้ที่ชัดเจน
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ควรค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากมาตรฐานบัญชีใหม่มีความเข้มงวด โดยเป็นห่วงลูกค้าสินเชื่อบ้านและเอสเอ็มอี เนื่องจากเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อจะรัดกุมมากขึ้น การอนุมัติสินเชื่อยากขึ้นและวงเงินน้อยลง เพราะธนาคารต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ดังนั้น ควรมีการทำความเข้าใจและอธิบายถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้าให้ชัดเจนก่อน จึงจะตอบได้ว่าควรที่จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ สำหรับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยเริ่มทดลองใช้มาตรฐานบัญชีใหม่แล้วในงบการเงินและการตั้งสำรองของธนาคารให้สอดคล้องกับธนาคารแม่ในมาเลเซียที่เริ่มใช้ IFRS9 แล้ว
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถาบันการเงินและบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่มีการเตรียมตัวเพื่อใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ เนื่องจาก ธปท.และสภาวิชาชีพบัญชีแจ้งเวลาบังคับใช้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น จึงไม่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงบริษัทขนาดกลางขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี กว่า 200,000 ราย ที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่อาจได้รับผลกระทบเข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น เนื่องจากมาตรฐานบัญชีใหม่มีการเปลี่ยนแปลงการคำนวณสินเชื่อ.- สำนักข่าวไทย