จ.สุราษฎร์ธานี 4 พ.ค.-น้องมาร์ค “พี่ตูนสูญ” สุดกตัญญู ทำหนังสือร้องผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ช่วยเหลือครูป่วยเป็นมะเร็งปอดต้องใช้เงินทำเคมีบำบัดกว่า 3 แสนบาท
ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด.ช.ปรเมศวร์ พุ่มพร หรือน้องมาร์ค อายุ 12 ปี เจ้าของวลีเด็ด “พี่ตูนสูญ” จนกลายเป็นข่าวโด่งดังในช่วงที่ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม วิ่งระดมทุนตามโครงการวิ่งเพื่อการกุศล “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” จาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปจนถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย พานางรัตนา เพชรรักษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/9 ม.11 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ ครูสอนภาษาไทยและครูประจำชั้นของน้องมาร์ค ตอนอยู่ชั้น ป.4โรงเรียนยุวศึกษา ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ไปขอความอนุเคราะห์ในการรักษาตัวนางรัตนา ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งปอด และต้องใช้เงินทำเคมีบำบัดกว่า 3 แสนบาทที่ไม่สามารถเบิกจ่ายจากหน่วยงานต้นสังกัดได้ ต่อนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี โดยยื่นหนังสือผ่านทางนายโอฬาร บัวลอย นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นางรัตนา เพชรรักษ์ ครูของน้องมาร์ค กล่าวว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งปอด สาเหตุมาจากเมื่อเดือนเมษายน ปี 2553ตนเองและครอบครัวถูกรถชนทำให้นายธเรศ เพชรรักษ์ อาชีพครูโรงเรียนเอกชน สามีเสียชีวิต ขณะนั้นหมอที่รักษาบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมากแค่ศีรษะแตกเอ็นนิ้วนางข้างซ้ายขาด แต่พอมาเดือน พ.ย.ปีเดียวกันมีอาการเจ็บที่หน้าอกด้านซ้ายและปวดหลังมาก ไปหาหมอ หมอได้เอ็กซเรย์ที่ปอดพบว่ามีอาการช้ำและมีเนื้อเยื่อเกาะที่กระดูกซี่โครง หมอทำการผ่าตัดและตัดซี่โครงหน้าอก 3 ซี่และตัดปอดไปครึ่งหนึ่งใส่กระดูกพลาสติกปลอมแทน หลังจากนั้นดูอาการมาเรื่อยๆจนถึงปี 2555 หมอเลิกนัดบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว ปอดปกติ ต่อมาเดือน ก.ค.ปี2560 มีอาการเจ็บหลังมาก หมอเอ็กซเรย์บอกว่ามีน้ำ ในปอดและได้เจาะปอดนำเนื้อเยื่อมาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะที่ 2 เมื่อทราบว่าเป็นมะเร็งก็ได้รักษามะเร็งทันทีช่วงแรกหมอให้คีโม(เคมีบำบัด)ไปแล้ว 6 เข็มๆละ1,200 บาทและเมื่อวันที่ 11 เม.ย.61หมอได้ตรวจดูผลจากซีทีสแกนจำเป็นต้องให้คีโมเพิ่มขึ้นอีกเป็นชุดที่ 2 อีก 6 เข็ม แต่รอบนี้เข็มละ 50,018 บาท
นางรัตนา กล่าวว่า หมอที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีนัดอีกครั้งวันที่ 23 พ.ค. นี้ด้วยฐานะและหน้าที่การงานในขณะนี้ตนเองไม่สามารถที่จะหาเงินไปเป็นค่ารักษาพยาบาลได้ เนื่องจากตนเองสอนโรงเรียนเอกชน มีเงินเดือนๆละ 15,000 บาท เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ปีละไม่เกิน 100,000 บาทตามระเบียบของสำนักงานบริหารการศึกษาเอกชน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาครั้งนี้หากทำตามคำแนะนำของหมอให้คีโม 6 เข็มๆละ 50,018 บาท รวมค่ารักษาแล้ว 300,108 บาท และไม่มั่นใจว่าจะหายขาดหรือต้องรักษาเพิ่มอีกหรือไม่ ตอนนี้ตนเองลำบากมากหลังสามีตายต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวคือ ด.ช.ธีทัต เพชรรักษ์ อายุ 10ขวบ เรียนชั้น ป.4 ร.ร.ยุวศึกษา ซึ่งมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจแต่กำเนิดและเลี้ยงดูมารดา คือนางมณี กลิ่นหมี อายุ 78 ปี ดังนั้นจึงกราบขอวิงวอนขอความอนุเคราะห์จากนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณาช่วยเหลือด้วยโดยที่ทางนายโอฬาร บัวลอย หลังจากที่เป็นตัวแทนรับหนังสือขอความอนุเคราะห์แล้วเนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดติดราชการ กล่าวย้ำว่าจะเร่งนำเสนอส่งต่อไปยัง ผวจ.สุราษฎร์ธานีทันที เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย