fbpx

ศาลอุทธรณ์แก้โทษ2วัยรุ่น ชิงไอโฟน บัณฑิต มศว เหลือคุกตลอดชีวิต

กรุงเทพฯ 24 เม.ย.- ศาลอุทธรณ์ แก้โทษจากประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิต 2 มือมีดฆ่าชิงไอโฟน บัณฑิต มศว เมื่อปี 60 ชี้จำเลยรับสารภาพมาตลอดยอมรับกับสื่อแสดงความสำนึกผิด


ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีฆ่าชิงทรัพย์  ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายกิตติกร  หรือ ตั้ม  วิกาหะ และนายสุพัฒชัย หรือ เอ็กซ์ จันทร์ศรี ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าชิงทรัพย์ผู้อื่น กรณีเมื่อคืนวันที่ 4 มกราคม 2560  ทั้งสองร่วมกันใช้อาวุธมีดแทงนายวศิน เหลืองแจ่ม บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จนเสียชีวิต บริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 เขตลาดพร้าว แล้วชิงเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 6 ราคา 26,000 บาทของผู้ตายก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองสถานเดียว 

ส่วนศาลอุทธรณ์ได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า จำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพมาโดยตลอด ทั้งชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน และชั้นพิจารณา อีกทั้งยังยอมรับผ่านสื่อมวลชน แสดงให้เห็นถึงการสำนึกผิด มีเหตุบรรเทาโทษ สมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คือการจำคุกจำเลยทั้ง 2 ไว้ตลอดชีวิต


ขณะที่นางนิราพร เหลืองแจ่ม มารดาของนายวศิน ระบุภายหลังศาลพิพากษาว่า ตนทำใจได้นานแล้ว และตอนนี้ไม่รู้สึกถือโทษโกรธเคืองใครทั้งสิ้น แต่มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาสังคม จึงอยากจะฝากภาครัฐและราชทัณฑ์ให้ดูแลนักโทษในเรือนจำ เมื่อออกมาให้กลับตัวกลับใจไม่ก่อเหตุซ้ำ โดยตนอยากพูดในภาพรวมไม่ใช่แค่เรื่องกรณีของลูกชายเท่านั้น

ทั้งนี้ตนก็ได้ศึกษาธรรมะ และช่วยเหลือดูแลเด็กกำพร้า ซึ่งยอมรับว่า 2 สิ่งนี้ช่วยเรื่องสภาพจิตใจได้มาก และยังเป็นการช่วยเหลือสังคม รวมทั้งเป็นการส่งผลบุญให้ลูกชายด้วย สำหรับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ออกมานั้น ทางครอบครัวตนคงไม่ยื่นฎีกาแล้ว แต่หากทางจำเลยจะร้องศาลฎีกา ก็เป็นสิทธิของจำเลย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.