กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – สนข.ยอมรับความต้องการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ายอดใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากกว่าร้อยละ 60 หลังรถไฟฟ้า 10 สายเสร็จ
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นประธานเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 โครงการศึกษาสำรวจความต้องการเดินทางและปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้า เพื่อวางแผนระบบขนส่งของประเทศ โดย สนข.ยอมรับว่าการใช้ระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะเขตเมืองและปริมณฑลขณะนี้ความต้องการใช้ระบบขนส่ง ระบบราง หรือรถไฟฟ้าสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันงานก่อสร้างรถไฟฟ้าตามแผนแม่บท 10 เส้นทาง อยู่ระหว่างเร่งรัดการก่อสร้าง บางส่วนทำให้การใช้บริการรถไฟฟ้าขณะนี้มีปัญหาคับคั่งจากความต้องการกับแนวเส้นทางปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกัน
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากผลการศึกษาของ สนข.พบว่าระบบขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลหากคิดจากสัดส่วนร้อยละ 100 ปัจจุบันมีการใช้ระบบรถยนต์ส่วนบุคคลทุกประเภทร้อยละ 70 อีกร้อยละ 30 ขนส่งสาธารณะ ประกอบด้วย รถไฟฟ้า ร้อยละ 1.2 รถเมล์ร้อยละ 20 รถตู้โดยสารร้อยละ 2.7 แท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้างร้อยละ 4.6 ที่เหลือเป็นระบบรถโรงเรียนและรถรับส่งพนักงาน ทำให้เห็นว่าระบบรางที่เป็นรถไฟฟ้ายังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดย สนข.ตั้งเป้าว่าในอนาคตการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะของมหานครขนาดใหญ่ที่เหมาะสมควรมีผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และมั่นใจว่าเมื่อรถไฟฟ้า 10 เส้นทางเสร็จการใช้ระบบรางในเขตเมืองจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และตั้งเป้าการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะร้อยละ 60 ที่เหลือเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล โดยแผนแม่บทพัฒนารถไฟฟ้าระยะแรกงานก่อสร้างจะเริ่มทยอยเสร็จจนเปิดให้บริการครบตั้งแต่ปี 2564-2567 และจะนำไปสู่การทำให้เมืองเป็นมหานครที่น่าอยู่มีการใช้บริการรถยนต์ส่วนบุคคลน้อยลง สิ่งแวดล้อมดีขึ้น สามารถลดการใช้พลังงานในระบบขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ การสำรวจความต้องการการเดินทางวันนี้ของ สนข. เป็นการศึกษาโดยตั้งแบบจำลองเพื่อพิจารณาว่าการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมคุ้มค่าการลงทุน เพื่อให้ทุกโครงการมีเหตุผลและปัจจัยรองรับที่จะพัฒนาโครงการลงทุนในอนาคต.-สำนักข่าวไทย