ยอดจดทะเบียน “ร้านขายยา-เวชภัณฑ์-เครื่องมือแพทย์” โตก้าวกระโดด

นนทบุรี 10 เม.ย. – พาณิชย์เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ เด้งสนองนโยบายรัฐสู่การเป็น Medical Hub จัดตั้งแล้ว 8,690 ราย ทุนจดทะเบียนกว่า 5 หมื่นล้าน 


นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีภารกิจหลักในการให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ รวมถึงการบริการข้อมูลธุรกิจแก่ภาคธุรกิจและประชาชน จากการวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ระหว่างปี 2558-2560 มีจำนวนนิติบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจที่น่าสนใจและจับตามองมากที่สุดคือ  ธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ ที่ปัจจุบันมีนิติบุคคลคงอยู่  8,690 ราย แม้จำนวนนิติบุคคลอาจจะดูไม่สูงมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดเจนว่าการจัดตั้งธุรกิจในกลุ่มร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

นางกุลณี กล่าวว่า มีการจัดตั้งธุรกิจนี้ในปี 2558 จำนวน 702 ราย ปี 2559 จำนวน 761 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.40  ปี 2560 จำนวน 1,171 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.88 และปี 2561 มีนิติบุคคลที่จัดตั้งธุรกิจระหว่างเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์  175 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.24 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ หากพิจารณาถึงทุนจดทะเบียนของธุรกิจกลุ่มนี้พบว่ามีจำนวนรวมทั้งหมดสูงถึง 56,632 ล้านบาท โดยเกือบร้อยละ 80 เป็นธุรกิจที่จัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำกัด และกว่าร้อยละ 90 มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครและเขตเมืองที่มีความสอดคล้องกับแหล่งชุมชน โรงพยาบาล และคลินิกรักษาโรค


สำหรับการเติบโตของธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ คาดว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลที่มียุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ประกอบกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเปลี่ยนรูปแบบไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) มากขึ้น ทั้งด้านการเข้ามารักษาโรค และการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ รวมถึงรัฐบาลสนับสนุนให้บุคคลธรรมดาปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เข้าสู่ระบบนิติบุคคลก็นับเป็นปัจจัยที่เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวเข้าสู่ระบบการจดทะเบียนมากขึ้น มากไปกว่านั้นปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพและความงามยังคงเป็นกระแสที่นิยมและยังมีหลายประเทศที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งไทยที่ปัจจุบันมีมากกว่า 10 ล้านคน  ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์เติบโตพร้อมสร้างให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกัน ทั้งนี้ ในอนาคตนอกจากธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่เป็นดาวรุ่งแล้ว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพประเภทอื่น เช่น สปา กิจการดูแลผู้สูงอายุ บริการเสริมความงาม และเครื่องสำอางจะได้รับประโยชน์จากการเป็น Medical Hub ของไทยอีกเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]