เร่งล่าคนร้ายฆ่าโหดสาววัย 33 ปี หมกเก๋งข้างคลองส่งน้ำอำนาจเจริญ

อำนาจเจริญ 5 เม.ย.- ความคืบหน้าเหตุคนร้ายสังหารโหด หญิงสาววัย 33 ปี ทิ้งศพไว้ภายในรถจอดทิ้งไว้ซอยเปลี่ยวข้างคลองส่งน้ำชลประทานอำนาจเจริญ  ล่าสุดชุดสืบสวนกระจายกำลังเร่งแกะรอยจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี  


นายพิชิต โสภาลุน ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดอำนาจเจริญ พี่ชายนางสาวดวงจันทร์ ทวีพันธ์ อายุ 33 ปี ที่ถูกฆาตรกรรม ทิ้งศพภายในรถเก๋งทะเบียน กข 6485 อำนาจเจริญ นำไปจอดทิ้งไว้ใกล้กับคลองส่งน้ำชลประทาน อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาเจริญ เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรลืออำนาจ โดยระบุว่าหลังน้องสาวหายตัวไป ได้ประกาศตามหาในโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งได้เบาะแสและพบน้องสาวเสียชีวิตอยู่ภายในรถ เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุ เกิดจากการชิงทรัพย์ เพราะผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ประกอบกับจากการตรวจสอบพบว่า ทรัพย์สินมีค่ารวมทั้งเงินสดที่เพิ่งกดออกไปจากธนาคารจำนวนหนึ่งหายไปด้วย


ขณะที่ชุดสืบสวนเร่งแกะรอยเส้นทาง รวมถึงผลตรวจสอบทางนิติเวช เบื้องต้นทราบข้อมูลการเดินทางของนางสาวดวงจันทร์ก่อนจะเสียชีวิตแล้ว รวมทั้งได้รายละเอียดจากกล้องวงจรปิด และเร่งตรวจสอบข้อมูลการโทรศัพท์ว่าโทรหาใครบ้าง ส่วนศพนางสาวดวงจันทร์ ตำรวจส่งไปโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

ด้านพล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรอำนาจเจริญ สั่งเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และผลทางนิติเวช เพื่อติดตามหาตัวคนร้าย ซึ่งขณะนี้พอทราบเบาะแสแล้ว จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดร้านสะดวกซื้อ แห่งหนึ่งพบผู้ตายลงไปซื้อยาลดไข้ 4 แผง รวมไปถึงจุดจอดรถที่ผู้ตายจอด 2 จุด ก่อนไปยังที่เกิดเหตุ โดยจุดที่ 2 ใช้เวลาเดินทางไปเกิดเหตุประมาณ 30-45 นาที ส่วนเรื่องปมการฆ่าสังหาร ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งการฆ่าชิงทรัพย์ หรือปมชู้สาว คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้จักกับผู้ตายอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย