วธ.-กก.ชวนแต่งไทยไปเล่นสงกรานต์

ถ.ราชดำเนิน 3 เม.ย.-‘ก.ท่องเที่ยวฯ-วัฒนธรรม’เชิญชวนแต่งไทยไปเล่นสงกรานต์ โดย ก.วัฒนธรรม จัดงาน 7 พื้นที่ในกรุงเทพฯ และ 7จังหวัดในภูมิภาค ขณะที่ ก.ท่องเที่ยวฯ จัดเทศกาลสงกรานต์ 4 ภาค   


นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และนาย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.)  ร่วมแถลงข่าว “ชวนแต่งไทย ไปเล่นสงกรานต์” ภายหลังวันนี้ (3 เม.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบแนวทางและมาตรการรณรงค์สืบสานคุณค่าประเพณี ภายใต้แนวคิด“สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย” ซึ่ง วธ.บูรณาการความร่วมมือกับ 24 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น 


โดยแนวทางและมาตรการรณรงค์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้  มีทั้งหมด 3 ด้านหลัก 11 แนวทาง ประกอบด้วย 1.รณรงค์จัดกิจกรรม “สงกรานต์วิถีไทย” อาทิ การส่งเสริมให้จังหวัดต่างๆ ใช้พื้นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและร่วมกันสืบสานประเพณีสงกรานต์ของท้องถิ่น ขอความร่วมมือจากประชาชนในการสืบสานคุณค่าสาระและสิ่งที่ควรทำของประเพณี เช่น ทำความสะอาดบ้านเรือน วัด สถานที่สาธารณะ ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ เล่นน้ำอย่างพองาม การรณรงค์ให้แต่งกายด้วยชุดสุภาพ ใช้ผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น หรือชุดไทยย้อนยุค เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ 

2.รณรงค์ “ใช้น้ำคุ้มค่า”อาทิ กำหนดพื้นที่ให้ประชาชนเล่นน้ำ เพื่อควบคุมการใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า ขอความร่วมมืองดใช้รถบรรทุกตระเวนสาดน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ กำหนดระยะเวลาการเล่นน้ำ  ให้เลิกเล่นน้ำในเวลาที่กำหนด ห้ามใช้แป้งและสีต่าง ๆ มาเล่น และขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดรู้คุณค่าและน้ำสะอาด เพื่อสุขอนามัย 


3.รณรงค์เรื่อง“ชีวาปลอดภัย” อาทิ ขอความร่วมมือภาคเอกชน ผู้ประกอบการ สถานบันเทิง ผู้จัดกิจกรรม กำหนดเวลาเปิด-ปิดจัดกิจกรรมและงดจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด การควบคุมและรณรงค์ผู้ใช้รถ โดยใช้มาตรการเมาไม่ขับและมีน้ำใจให้แก่กัน ในการใช้รถใช้ถนน หากพบเห็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมให้แจ้งหน่วยงานหรือศูนย์รับแจ้งเหตุของหน่วยงานต่างๆ 

พร้อมจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ส่วนกลางและภูมิภาค ภายใต้แนวคิด“สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่าชีวาปลอดภัย” ประกอบด้วย กิจกรรมรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติและผู้บริหาร วธ. วันที่ 11 เม.ย. ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 

สำหรับส่วนกลาง 7 พื้นที่ในกรุงเทพฯได้แก่ 1.วัดปทุมวนารามวรวิหาร 

2.ศูนย์การค้าสยามพารากอน 2 พื้นที่นี้มีชื่องาน “สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย” จัดวันที่ 12-15 เม.ย. 3.สยามสแควร์ งาน “สงกรานต์เมษาผ้าขาวม้า สยามสนุก สงกรานต์แบบไทย” โดยผู้ที่แต่งชุดไทยย้อนยุคร่วมงาน จะได้รับเกียรติบัตรที่ระลึกวันละ 300 คน 4.ถนน สีลม Bangkok Songkran Festival @ Silom 2018 งาน “สงกรานต์ ถนนสีลม ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์” 5.ตรอกข้าวสาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ 6.ถนนวิสุทธิกษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ  และ 7.สวนสันติชัยปราการ บางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งทั้ง 5 พื้นที่นี้ จัดวันที่ 13-15 เม.ย.  

ขณะที่ส่วนภูมิภาคจัดงานประเพณีสงกรานต์7จังหวัด วันที่8-22 เม.ย. อาทิ จ.พระนครศรีอยุธยา งาน “สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่าชีวาปลอดภัย” ณ คุ้มขุนแผน จ.ขอนแก่น ,งาน “ประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูณเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว” ณ บึงแก่นนคร และถนนศรีจันทร์(ข้าวเหนียว) จ.เชียงใหม่ ,งาน “สืบฮีต สายฮอย ปี๋ใหม่เมือง” ณ วัดโลกโมลี จ.สุโขทัย งาน “เทศกาลศิลปวัฒนธรรม ประเพณีสงกรานต์ สักการพระร่วงเจ้า กรุงเก่าสุโขทัย” ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สมุทรปราการ ,งาน “ประเพณีสงกรานต์พระประแดง” ณ ที่ว่าการอำเภอพระประแดง 

ส่วนประชาชนที่แต่งไทยสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์และแหล่งเรียนรู้ของ วธ.ในช่วงสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทยฟรี วันที่ 2-8 เม.ย.และช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่12-16 เม.ย.ในช่วงงานมหกรรมวัฒนธรรมใต้ร่มพระบารมี 236 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ วันที่ 21-26 เม.ย. 

ด้านนายวีระศักดิ์  กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยผ้าท้องถิ่นผ้าย้อนยุคสร้างบรรยากาศสงกรานต์แบบไทยที่มีเอกลักษณ์ความงดงามทางวัฒนธรรม ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ วธ.ได้ร่วมมือรณรงค์แต่งชุดไทยเล่นสงกรานต์ให้สอดคล้องกันในแนวทางเดียวกันเพื่อกระตุ้นให้คนไทยหันกลับเรียนรู้ที่มาทางประวัติศาสตร์ผ่านเทศกาลสงกรานต์  พร้อมแสดงออกให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ผ่านการแต่งชุดไทยเล่นน้ำสงกรานต์ 

ซึ่งปีนี้จัดเทศกาลสงกรานต์ 4 ภาค “วอเตอร์ เฟสติวัล 2018” ตามแนวคิด “รื่นเริงเถลิงศก” ภาคกลางจัดในพื้นที่ 8 ท่าน้ำ อาทิ วัดพระเชุตพนฯ วัดอรุณ เอเชัยทีค,ภาคเหนือ จัดที่พิพิธภัณฑ์เฮือนโบราณล้านนา จ.เชียงใหม่ ,ภาคอีสาน จัดที่ลานวัฒนธรรมมรดกโลกบ้านเชียง จ.อุดรธานี และภาคใต้จัดที่ถนนดีบุก จ.ภูเก็ต ,  

ส่วนการรณรงค์ให้เที่ยวสงกรานต์  ในเมืองรอง  อาจต้องค่อยเป็นค่อยไปอาศัยระยะเวลาในการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองนั้นๆ และไม่กระทบหรือเปลี่ยนแปลงวิถีของคนในชุมชนท้องถิ่นด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย