ตั้งสำนวนสอบ “แก๊งเปรี้ยว” กรณีแชทหลุด

ขอนแก่น 28 มี.ค.-อธิบดีผู้พิพากษาภาค4 ให้ศาลจังหวัดขอนแก่น ตั้งสำนวนคดีละเมิดอำนาจศาล ดำเนินคดีกับ “เบนซ์-เปรี้ยว-เอิร์น” กรณีใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพและแชทเฟซบุ๊กในห้องพิจารณาคดี



วันนี้ ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นายธนัญชัย วงษ์ซ้าย ทนายความของนางสาวจิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรมคุณ จำเลยในคดีฆ่าหั่นศพนางสาววริศรา หรือแอ๋ม กลิ่นจุ้ย พนักงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เดินทางเข้าให้ถ้อยคำและชี้แจงต่อศาลจังหวัดขอนแก่นต่อกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพการส่งข้อความสนทนาของนางสาวปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย พร้อมกับการส่งภาพถ่ายเซลฟี่ร่วมกันระหว่างนางสาวปรียานุช นางสาวกวิตา หรือเอิร์น ราชดา และนางสาวจิดารัตน์ ภายในห้องพิจารณาคดีส่งให้กับบุคคลภายนอก โดยใช้เฟซบุ๊กและโทรศัพท์มือถือของนางสาวจิดารัตน์ ซึ่งจากการตรวจสอบของศาลจังหวัดขอนแก่น พบว่ามีการถ่ายภาพภายในห้องพิจารณาคดีจริง ในวันที่ 13 มี.ค.2561 ช่วงก่อนที่ผู้พิพากษาจะขึ้นนั่งพิจารณาคดี ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสืบพยานฝ่ายโจทก์ โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องพิจารณา ที่ปรากฏภาพ จำเลยที่ 3 คือนางสาวจิดารัตน์ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ได้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องพิจารณาคดี และมีการใช้โทรศัพท์มือถือจริง


นายธนัญชัย วงษ์ซ้าย ทนายความ กล่าวว่า หลังจากที่เห็นภาพแชทดังกล่าวที่เผยแพร่ในโลกโซเชียลรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะก่อนที่จะเข้าห้องพิจารณาคดีทุกครั้ง ในฐานะทนายความของจำเลย ก็ได้แจ้งกฎระเบียบและมารยาทในระหว่างอยู่ในห้องพิจาณาคดีให้ลูกความฟังทุกครั้งว่าสิ่งใดทำได้และสิ่งใดทำไม่ได้ โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสารที่ห้ามเด็ดขาด ซึ่งตนเองได้ย้ำเตือนให้ลูกความปฏิบัติตามแล้ว จึงไม่คิดว่าลูกความจะฝ่าฝืนในสิ่งที่ทนายความทุกคนให้ความสำคัญ และในช่วงดังกล่าวตนเองก็ไม่ได้สังเกตว่าลูกความทำอะไร เนื่องจากเวลานั้นทุกคนต่างมุ่งไปที่การสืบพยานเป็นหลัก ซึ่งในวันนี้ศาลจังหวัดขอนแก่นได้การเบิกตัวจำเลยทั้ง 3 คน ที่ปรากฏในภาพมาให้ถ้อยคำและชี้แจงรายละเอียดในการกระทำดังกล่าวต่อศาลด้วย

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ อธิบดีผู้พิพากษาภาค4 ได้ให้ศาลจังหวัดขอนแก่น ตั้งสำนวนคดีละเมิดอำนาจศาล โดยจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนในคดีนี้ด้วย ซึ่งขั้นตอนการไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล คาดว่าจะสามารถเริ่มไต่สวนได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ ส่วนบทลงโทษในข้อหาละเมิดอำนาจศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง