fbpx

มอเตอร์โชว์คาดปีนี้ยอดจองรถแตะ 40,000 คัน

กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – มอเตอร์โชว์ปีนี้คาดมียอดจองซื้อรถ 40,000 คันส่วนตลาดรถในประเทศจะอยู่ที่ 900,000 คัน เชื่อเจ้าของรถยนต์คันแรกเพียง 7% เท่านั้นที่คิดซื้อรถคันใหม่


นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 กล่าวว่า ได้ตั้งเป้ายอดจำหน่ายรถยนต์ภายในงานมอเตอร์โชว์ 40,000 คัน เพิ่มขึ้นจากการจัดงานในปีที่ผ่านมาที่มียอดจำหน่าย เกือบ 37,000 คัน จากการที่ทุกค่ายรถยนต์มั่นใจในกำลังซื้อและต่างปรับเป้ายอดจำหน่ายในงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทไฟแนนซ์ เริ่มกลับมากระตุ้นสินเชื่อผ่านการจัดโปรโมชั่นต่างๆ

ขณะที่ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้มองว่าฟื้นตัวแล้ว และคาดว่าจะมียอดขายในประเทศทั้งปีมากกว่า 8 แสนคัน โดยเป็นยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้ออย่างแท้จริง ไม่ใช่กำลังซื้อที่เกิดจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล เข่น โครงการรถยนต์คันแรก ทำให้กลุ่มที่ซื้อรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรก จะมีความระวังเรื่องการใช้จ่ายและยังคงใช้รถยนต์คันเดิมต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากรับรู้แล้วว่าการมีรถนั้นจะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย และคนเริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องมากกว่า ทำให้การมีรถยนต์เป็นเรื่องรองลงมา แต่อย่างไรก็ตามยังมองว่ารถยนต์ยังคงมีความจำเป็นตราบใดที่ระบบขนส่งมวลชนของไทยยังเอื้ออำนวย และทั่วถึงอย่างเพียงพอ


ขณะที่เทรนรถยนต์ในปีนี้ ภายในงานมอเตอร์โชว์หลายค่ายมีการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาเปิดตัว เช่น ฮุนไดจากเกาหลี และบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ที่นำเอารถยนต์ไฟฟ้าผลงานคนไทยมาเปิดตัวในงานเป็นครั้งแรก แต่ทั้งนี้แม้กระแสรถยนต์ไฟฟ้าจะมาแรง แต่ผู้ผลิตยังคงเน้นการผลิตรถยนต์ไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด เพราะยังอยู่ระหว่างการปรับตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทั้งระบบ

สำหรับงานมอเตอร์โชว์จะจัดไปจัดถึงวันที่ 28 มีนาคมถึง 8 เมษายน 2561 ณ อิมแพคเมืองทอง โดยผู้จัดงานคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รักษาการรองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดยานยนต์ช่วงไตรมาสแรก ค่อนข้างสดใส โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ ที่มียอดขายในประเทศ 1.7 แสนคัน เติบโต 12 % และมียอดส่งออก 1.84 แสนคัน เติบโต 3.4 % ส่งผลให้ภาพการผลิตรวมอยู่ที่ 3.4 แสนคัน เติบโตถึง 12 % 

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดว่าในปีนี้ ยอดการผลิตรถยนต์จะสูงขึ้น 2 ล้านคัน โดยการส่งออก จะอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน ตั้งเป้ายอดขายภายในประเทศ ไว้ที่ 9 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขายได้ 8.7 แสนคัน โดยปัจจัยผลักดันมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตาม GDP ที่น่าโตได้ 3.8-4 % ภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวที่เติบโตได้ดี ราคาสินค้าเกษตรที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ช่วยผลักดันกำลังซื้อ ขณะที่กลุ่มรถยนต์ที่ครบกำหนดมาตรการรถคันแรก น่าจะมีเพียงแค่ 7 % เท่านั้นที่คิดเปลี่ยนรถในปีนี้  

ด้านการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะไม่กระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะแรงงานในภาคยานยนต์ จ่ายสูงเกินค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว อีกทั้งค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ยังช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนให้มากขึ้นอีกด้วย โดยจะเริ่มมีผลต่อกำลังซื้อในประเทศทันทีตั้งแต่เดือนเมษายนเพราะแรงงานได้รับเงินค่าจ้างเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องระมัดระวัง คือแนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่อาจจะกระทบต่อตลาดยานยนต์ในกลุ่มส่งออก รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน และนโยบายด้านการเก็บภาษีศุลกากรกว่า 1,300 รายการ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อไทย ในกรณีที่จีนอาจสั่งซื้อวัตถุดิบ และชิ้นส่วนการผลิต จากชาติในอาเซียนลดลง เรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกชาติในอาเซียน และจะมีผลต่อยอดส่งออกรถยนต์ของไทยได้แต่เชื่อว่าขณะนี้ยอดส่งออกน่าจะเป็นไปตามประมาณการที่ตั้งไว้  1,100,000 คันส่วนผลกระทบทางตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์นั้นต้องรอศึกษารายละเอียดของมาตรการว่าเป็นอย่างไร-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้