ศธ. 26 มี.ค.- ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาฯ มีมติไล่ออก ‘รจนา สินที’ ข้าราชการซี 8ปมทุจริตเงินกองทุนเสมาฯเตรียมขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้อง
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(อ.ก.พ.สป.) ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์พิจารณาลงโทษไล่นางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษาระดับ 8 ออกจากราชการ หลัง ยอมรับสารภาพว่าได้กระทำการทุจริตเงินกองเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งถือเป็นโทษทางวินัยร้ายแรงสูงสุด เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าการกระทำของนางรจนาเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแผนของทางราชการ และฐานรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง /ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต / เเละฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 83 (2) มาตรา85 (1)(4) และ(7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการลงโทษข้าราชการผู้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205/ว 234 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536
นายการุณ กล่าวต่อว่า มติของ อ.ก.พ.มีผลทันที นางรจนาหมดสภาพการเป็นพนักงานข้าราชการ โดยจะไม่ได้รับค่าบำเหน็จบำนาญเเต่อย่างใด ส่วนจากนี้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงศึกษาธิการก็จะทำหน้าที่สืบสวนคู่ขนานกับป.ป.ท.เเละป.ป.ง. เพื่อขยายผลผู้ร่วมกระบวนการทุจริต ซึ่งอาจต้องใช้เวลา เนื่องจากเอกสารบางอย่างหายไป หากพบว่าข้าราชการของกระทรวงศึกษามีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริต กระทรวงก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยต่อไป แต่สำหรับการดำเนินคดีกับนางรจนา ต่อจากนี้กระทรวงศึกษาธิการจะประสานกับ 2 หน่วยงานรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งให้อัยการและส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
ส่วนเรื่องการอายัดทรัพย์ของนางรจนาเป็นหน้าที่ ป.ป.ง. ที่จะนำเงินมาคืนกองทุนพัฒนาชีวิตเพื่อชดใช้ให้กับนักเรียนเเละครูที่ได้รับทุน ทั้งนี้คณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตจะมีการประชุมสัปดาห์หน้าเพื่อหาวิธีเยียวยาเด็กเเละครูที่ได้รับทุนเเต่ไม่ได้รับเงินไปเบื้องต้นด้วย อาทิ การใช้ดอกเบี้ยของเงินกองทุนมาชดเชยให้เด็กไปก่อน เป็นต้น สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการทุจริต ขณะนี้ทราบรายชื่อกว่าร้อยละ60 ของนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จำนวนกว่า 30 วิทยาลัยแล้ว และจะมีการประชุมบอร์ดของกองทุนเพื่อหาทางเยียวยาต่อไป ซึ่งจะไม่รอให้คดีเสร็จสิ้น เพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว .-สำนักข่าวไทย