fbpx

ไบโอไทยประเมิน โอกาสที่จะเสนอให้มีการแบน “พาราควอต ” มีน้อยกว่า 30%

กรุงเทพฯ 24 มี.ค. จากการประเมินโดยไบโอไทย โอกาสที่อนุกรรมการเฉพาะกิจฯ จะเสนอให้มีการแบนพาราควอตมีโอกาสน้อยกว่า 30%    มีโอกาสสูงที่จะมีการเสนอให้มีการใช้พาราควอตต่อไปโดยอ้างว่าเสนอให้มีการใช้แบบควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อลดกระแสต่อต้านจากหลายหน่วยงานและภาคประชาชน


โดยไบโอไทย วิเคราะห์ว่า  มีโอกาสน้อยมากที่ในวันที่ 27 มีนาคม 2561 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการพิจารณาของอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาเรื่องพาราควอต   จะมีการเสนอให้มีการแบนสารพิษดังกล่าว ตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขและคณะทำงานสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 4 กระทรวงหลัก


เหตุผลหลักเนื่องจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมาย แต่งตั้งอนุกรรมการเฉพาะกิจซึ่งพิจารณาเกี่ยวกับการแบนพาราควอตมาจากหน่วยงานที่มาจาก  ด้านการผลิตทางการเกษตรและอุตสาหกรรมมาเป็นเสียงส่วนใหญ่   ในอนุฯซึ่งจะทำหน้าที่ในการชงเรื่องว่าจะมีการแบนหรือไม่แบนพาราควอต

ทั้งๆที่ในหลักการทั่วไปและแนวปฏิบัติของหลายประเทศ การแบนสารพิษใดๆ  หน่วยงานหลักที่ทำหน้านี้ได้แก่กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ในกรณีสหรัฐอเมริกาคือ EPA หรือ FDA และในบราซิลคือ ANVISA เป็นต้น แต่ในประเทศไทยอำนาจการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชกลับเป็นของกระทรวงเกษตรฯและกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งมีตัวแทนจากบริษัทเอกชนที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนนั่งเป็นกรรมการในการพิจารณารวมอยู่ด้วย


โดยหากพิจารณาที่มาของอนุกรรมการชุดนี้ มีที่มาจากกระทรวงเกษตรและอดีตข้าราชการในกระทรวงเกษตรถึง 4 คน จากการประเมินโดยไบโอไทย ทั้ง 4 คนจะเสนอความเห็นให้มีการใช้พาราควอตต่อไป แต่เพื่อสร้างความชอบธรรมให้มีการใช้สารพิษนี้ก็มีแนวโน้มสูงที่จะมีการเสนอในรูปแบบ “ควบคุมการใช้อย่างเข้มงวด” ซึ่งแทบไม่มีทางที่จะสามารถบังคับใช้ได้ การเสนอให้มีการควบคุมการใช้อย่างเข้มงวด (restricted use) จึงมีค่าเท่ากับการอนุญาตให้มีการใช้สารพิษนี้ต่อไปนั่นเอง

โดยตัวแทนจากกรมวิชาการเกษตรทั้ง2คนน่าจะสนับสนุนให้มีการใช้พาราควอตต่อไป เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับอธิบดีกรมวิชาการเกษตรที่เดินหน้าอนุญาตให้บริษัทยักษ์ใหญ่ขึ้นทะเบียนไปก่อนหน้านี้แล้วโดยไม่รับฟังข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข//  ส่วนอดีตข้าราชการกรมวิชาการเกษตรน่าจะไม่แบนพารารควอตด้วยเหตุผลเดียวกับที่ไม่แบนคาร์โบฟูราน  // ส่วนตัวแทนจากสำนักงานมาตรฐานอาหารแห่งชาตินั้น จากการที่ไบโอไทยเคยเข้าร่วมประชุมกับฝ่ายนโยบายของกระทรวงเกษตร ผู้บริหารของหน่วยงานนี้มีท่าทีจะสนับสนุนการใช้พาราควอตค่อนข้างแน่

ไบโอไทยอ้าง ข้อมูลจากแหล่งข่าวในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ตัวแทนของกรมควบคุมมลพิษน่าจะเสนอความเห็นให้มีการใช้พาราควอตต่อไป เนื่องจากไม่เชื่อถือข้อมูลเกี่ยวกับการตกค้างของพาราควอตในสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นงานวิจัยของมหาวิทยานเรศวร มหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ออกมาก่อนหน้านี้

อนุกรรมการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยา 2 คน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการใช้พาราควอตต่อทั้ง 2 คน โดยคนหนึ่งอยู่ในอนุกรรมการที่เคยแสดงความเห็นคัดค้านการแบนคาร์โบฟูรานทั้งๆที่สารพิษนั้นมีการแบนมาแล้วทั่วโลกแม้กระทั่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตและเป็นผู้ส่งออกมายังประเทศไทยเอง ส่วนอีกหนึ่งคนนั้นเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมผู้ค้าสารพิษและแสดงทัศนะโน้มเอียงไปในทิศทางที่จะไม่แบนพาราควอตเช่นกัน

มีเพียงอนุกรรรมการเฉพาะกิจ 2 คนเท่านั้นจากทั้งหมด 14 คนที่จะเสนอให้มีการแบน คือ  รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์สนับสนุนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอีกคนเป็นกรรมการวัตถุอันตรายที่มาจากตัวแทนองค์กรสาธารณประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและคณะกรรมการขับเคลื่อนมติของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (ซึ่งมีจุดยืนให้แบนพาราควอต) ส่วนอีกท่านหนึ่งแม้จะมาจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ไบโอไทยประเมินว่าหากผู้บริหารในกระทรวงไม่สั่งการให้ต้องดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงฯที่ประสงค์จะให้แบนพาราควอตก็มีแนวโน้มที่จะเลือกไม่แสดงความคิดเห็น

กรรมการที่เหลือนอกเหนือจากประธานซึ่งแสดงภาพว่าต้องรักษาความเป็นกลางแล้ว เป็นอนุกรรมการที่มาจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์ ซึ่งโดยทั่วไปตัวแทนจากหน่วยงานรัฐอื่นจะหลีกเลี่ยงที่จะแสดงความคิดเห็นเพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

จากการประเมินโดยไบโอไทย โอกาสที่อนุกรรมการเฉพาะกิจจะเสนอให้มีการแบนพาราควอตมีโอกาสน้อยกว่า 30% มีโอกาสสูงที่จะมีการเสนอให้มีการใช้พาราควอตต่อไปโดยอ้างว่าเสนอให้มีการใช้แบบควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อลดกระแสต่อต้านจากหลายหน่วยงานและภาคประชาชน

สิ่งที่ควรเป็นห่วงอย่างยิ่งคือเมื่ออนุกรรมการมีความเห็นเช่นไร โดยทั่วไปคณะกรรมการวัตถุอันตราย(ซึ่งเป็นคนแต่งตั้งอนุกรรมการชุดนี้)จะมีความเห็นเช่นนั้นด้วย ดังคำให้สัมภาษณ์ของ นาย ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อดีตอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาติธุรกิจ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2557 กรณี “คณะกรรมการวัตถุอันตรายอาศัยช่วงชุลมุนปล่อย คาร์โบฟูราน – เมโทมิล ลอยนวล” ดังต่อไปนี้

“กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการนั้นมีการตั้งคณะอนุกรรมการเป็นผู้พิจารณา ความเหมาะสมในการจัดชนิดของวัตถุอันตราย และทำการพิจารณากันหลายรอบ ในทางปฏิบัติคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะไม่ค่อยได้ออกความเห็น ถ้าสารเคมีชนิดใดเกี่ยวข้องกับกระทรวงไหน จะให้คณะกรรมการและอนุกรรมการที่มาจากกระทรวงนั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ประกอบด้วยนักวิชาการด้านเกษตรเป็นส่วน มาก โดยมี ดร.นวลศรี ทยาพัชร อดีตผู้อำนวยการกองวัตถุมีพิษการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ส่วนการพิจารณาลงความเห็นจะเป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาและเสนอขึ้นมา เมื่อคณะอนุกรรมการพิจารณาเสนอเรื่องขึ้นมาแล้ว คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะเห็นชอบตามนั้นและออกมาเป็นมติสิ้นสุด”

หากประชาชนไม่ลุกขึ้นมาเรียกร้องและตรวจสอบ และหากฝ่ายบริหารซึ่งหมายถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกให้ข้อสรุปและมีมติยืนยันให้แบนพาราควอต รวมถึงตัวนายกรัฐมนตรีเองไม่ใช้อำนาจของฝ่ายบริหารที่กำกับคณะกรรมการวัตถุอันตราย ประเทศไทยจะยังคงแผ่นดินอาบสารพิษต่อไปอีกนานเท่านาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้