นครราชสีมา 23 มี.ค.-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 สรุปสาเหตุรถทัวร์มรณะพุ่งข้ามเลนชนต้นไม้และแผงค้าที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 18 ศพ ว่ามาจากความประมาทของคนขับรถ เพราะทั้งเสพยาบ้า และไม่ชำนาญเส้นทาง ซึ่งตำรวจจะขยายผลเอาผิดเจ้าของบริษัททัวร์ด้วย
อุบัติเหตุรถทัวร์นำเที่ยวเสียหลักพุ่งข้ามเลนชนต้นไม้และแผงค้า มีผู้เสียชีวิตถึง 18 ราย ริมถนนสาย 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อ 2 วันก่อน ล่าสุด หลังประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 สำนักงานขนส่ง จังหวัดนครราชสีมา และแขวงการทาง นครราชสีมาที่ 3 ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 สรุปว่า จากการตรวจสอบระบบเบรกไม่พบรอยรั่วของน้ำมัน ประกอบกับการตรวจพบสารยาบ้าในร่างกายนายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถ อาการเบรกไม่อยู่ จึงไม่ได้เกิดจากเบรกแตก แต่เกิดจากความประมาท ไม่ชินเส้นทาง และการใช้ความเร็วไม่เหมาะสม ซึ่ง GPS จับได้ก่อนจังหวะรถทัวร์พุ่งลอยข้ามแบริเออร์กั้นเลน ความเร็วอยู่ที่ 83 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงแจ้งข้อหานายกฤษณะ ฐานเสพยาบ้าขณะขับรถ, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส และฝ่าฝืนเครื่องหมายจำกัดความเร็ว
เจ้าหน้าที่ยังพบว่า รถทัวร์คันเกิดเหตุไม่เข้าตรวจสภาพในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนพฤติกรรมการเสพยาบ้าของคนขับรถ รวมทั้งประวัติการครอบครอง การเสพยาบ้าถึง 5 คดี ผู้ประกอบการเจ้าของรถทัวร์จะต้องถูกขยายผลเอาผิดด้วยที่เลือกคนกลุ่มเสี่ยงมาขับรถยนต์สาธารณะ
ไม่เพียงโค้งมะกรูดหวานที่เกิดเหตุ แต่แบริเออร์กั้นเลนความสูง 1 เมตร 40 เซนติเมตร จะถูกต่อเติมในช่วงทางโค้งครอบคลุมพื้นที่ขึ้นลงเขา 9 กิโลเมตร โดยจะเริ่มดำเนินการหลังเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเพิ่มไฟส่องสว่างตามไหล่ทาง แต่ในระยะเร่งด่วน เจ้าหน้าที่แขวงการทางจะเพิ่มป้ายเตือนและไฟกระพริบ ควบคู่กับเพิ่มการตรวจจับความเร็วตามจุดเสี่ยงของตำรวจ ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาว จะมีการเพิ่มช่องจราจรสำหรับรถหนัก และเพิ่มรัศมีทางโค้งเพื่อความปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับค่าสินไหมทดแทน ตำรวจจะเชิญผู้ประกอบการรถทัวร์ ตัวแทนประกันภัย และญาติผู้เสียหาย มาเจรจาตกลงให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว แต่หากญาติคนใดไม่พอใจ ตำรวจก็พร้อมทำสำนวนให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน.-สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ