สำนักข่าวไทย 23 มี.ค.- นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ชี้ละครดังปลุกวงการทีวีดิจิทัล หลังจากอยู่ในช่วงขาลง สะท้อนการนำเสนอ “ของดี-ขายได้” แต่ต้องเลือกขายให้ถูกวิธี ขยายผลช่องทางโซเชียลช่วยสนับสนุน ส่วนกระแสดาราดังพร้อมการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว เชื่อยุคปัจจุบันคนดูแยกออกระหว่างเรื่องจริงและละคร
ผศ.มรรยาท อัครจันทโชติ ภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กระแสความนิยมละครดังเกิดอานิสงส์หลายอย่างกับวงการสื่อสารมวลชน หลังจากที่หลายฝ่ายมองว่าวงการโทรทัศน์ในช่วงทีวีดิจิทัลกำลังเข้าสู่ขาลง แต่ทำให้เรตติ้งการชมโทรทัศน์มากขึ้น ในมุมมองนิเทศศาสตร์เห็นว่าเป็นการผนึกกำลังของสื่อหลายแขนงในการสนับสนุนให้ใช้โซเซียลมีเดีย หรือมีม ที่เป็นกระแส นำพฤติกรรม คำพูด การกระทำที่ตัวละครมาทำการเลียนแบบ แพร่ผ่านไปทางสื่ออย่างรวดเร็ว จึงเป็นสาเหตุให้ละครนี้ได้รับความสนใจ เพราะผู้ชมเหมือนมีส่วนร่วมในละคร เกิดกระแส 1 ละคร สะท้อนความสนใจหลากหลาย
ผศ.มรรยาท กล่าวว่า สาเหตุที่ละครในบุพเพสันนิวาสของรอมแพง ได้รับความสนใจอย่างมาก ได้รับการตีพิมพ์มากกว่า 60 ครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นการประยุกต์ความร่วมสมัยใส่ลงไป ตัวละครหลักเป็นคนธรรมดาชาวบ้านที่มีบุคลิกคล้ายคนในปัจจุบัน มีนิสัยที่โก๊ะๆ และสะท้อนมุมผ่านคนธรรมดา ดำเนินเรื่องที่สอดแทรกวัฒนธรรมแบบค่อยๆ เป็นค่อยไป ผ่านภาษา ของใช้ “ออเจ้า”, ”มากโข” ,”อึดตะปือ” ,”หีบ หรือ ตีบ “ ทำให้สังคมเกิดการเรียนรู้รากเหล้าของภาษา แม้ที่ผ่านมาละครไทยจะมีการย้อนยุคมาหลายเรื่อง อย่าง ทวิภพ แต่การนำเสนอก็แตกต่างออกไป หลายเรื่องราวของนิยายปลูกฝังความรักชาติ แต่นิยายเรื่องนี้เลือกดำเนินเรื่องที่แตกต่างออกไป ไม่ต้องหาเหตุของความรักชาติ หรือหาจำเลยของการเสียกรุง ไม่มีเรื่องของชนชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของคนไทยล้วนๆ และเลือกในยุคสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นับเป็นความแตกต่าง
ผศ.มรรยาท กล่าวต่อว่า การกลับมาพลิกฟื้นของละครไทยในช่วงยุคทีวีดิจิทัลขาลง ทำให้เห็นว่าของดีอย่างไรก็เป็นของดี วงการสื่อยังคงต้องเลือกผลิตสิ่งที่ดีให้กับผู้ชมต่อไป เพราะของดีอย่างไรคนก็ดู ขายได้ แต่ต้องเลือกขายให้ถูกวิธี จะเห็นได้ว่ามีการปรับกลยุทธ์ช่องทางการรับชมใหม่ มาสู่ Mello เป็นช่องทางการรับชมแบบทันใจโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งยูทูบหรือสื่ออื่น ยังคงมาช่วยสนับสนุนกระแสของละครอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้กระแสการรับชมละครของโทรทัศน์ไทยกลายเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่อยากให้มีอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงกระแสความสนใจประวัติศาสตร์ หรือการแต่งกายแบบไทย อยากให้ถือโอกาสนี้ได้ซึมซับและเรียนรู้ความเป็นไทยอย่างแท้จริง
ส่วนกระแสดาราที่ดังมาก พร้อมการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว สัมพันธ์ชู้สาว เชื่อว่าในยุคปัจจุบันคนดูแยกออกระหว่างอันไหนละคร อันไหนชีวิตจริง ไม่เหมือนในอดีตที่พระเอกต้องเป็นพระเอกตลอดเวลา แต่ว่าต้องยอมรับในสมัยก่อนผู้ชมมีความห่างไกลของศิลปินดารา ไม่ได้มีความใกล้ชิดกันแบบนี้ เดี๋ยวนี้ผู้ชมสามารถใกล้ชิดดาราได้ผ่านช่องทางโซลเชียลมีเดีย ทำให้เกิดแฟนคลับมากมาย แต่ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมหรือชีวิตจริงของดาราก็ส่งผลกับความนิยมของตัวศิลปินเองและละครด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีที่มักพบข่าวฉาวมาคู่กับความดังของศิลปินดารา อันนี้ถือว่าอาจเกิดความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ได้ เพราะบางคนก็อยากเป็นส่วนร่วมของละคร มีการโยนกระแสตาม อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่ง อยากถูกคนสัมพันธ์ หากมีความใกล้ชิดกับดาราคนนั้นคนนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับในวงการบันเทิง มีการปั้นข่าวฉาวเพื่อปลุกกระแสให้กับตัวศิลปินดาราเช่นกัน .-สำนักข่าวไทย