BIG STORY : เสนอติดตั้งระบบเตือนภัยในรถบัส 2 ชั้น

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยข้อมูลกับสำนักข่าวไทย อสมท ว่าจะมีรถโดยสาร 2 ชั้น ไม่ประจำทางจำนวนประมาณ 5,000 คัน ที่จดทะเบียนก่อนปี 2556 เสี่ยงต่อมาตรฐานของกรมขนส่ง และอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงแนะนำว่ารถ 2 ชั้น ควรมีการติดตั้งระบบเตือนภัย และไม่วิ่งในเส้นทางที่สูงชัน โดยเหมาะกับใช้ในเมืองมากกว่า


การประกาศบอกให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนรถจะออก เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยตามที่กรมการขนส่งกำหนด เช่นเดียวกับการทำเช็กลิสต์ตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ และความพร้อมของรถ ก่อนให้บริการทุกครั้ง


พนักงานขับรถบอกว่า แม้จะปฏิบัติบัติตามข้อบังคับความปลอดภัย และจะมีอุปกรณ์ เช่น ค้อนทุบกระจก เข็มขัดนิรภัย แต่ก็ยังมีปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ และเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น ถนนบางเส้นที่มีการก่อสร้าง

ส่วนผู้โดยสารคนนี้ แม้จะทราบข่าวอุบัติเหตุรถโดยสาร 2 ชั้น ที่ อ.วังน้ำเขียว เมื่อคืนนี้ แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นในความปลอดภัยของรถโดยสาร 2 ชั้นเช่นเดิม


ก่อนหน้านี้กรมการขนส่งทางบกมีการกำหนดให้รถโดยสารที่มีความสูงตั้งแต่ 3 เมตรครึ่งขึ้นไป ต้องผ่านเกณฑ์ทดสอบการทรงตัวไม่น้อยกว่า 30 องศา ติดตั้งระบบจีพีเอส การเดินรถแบบเรียลไทม์ ต้องตรวจสภาพรถปีละ 2 ครั้ง รวมถึงคนขับรถต้องผ่านการอบรมหลักสูตรไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง และทดสอบการขับรถบนถนนจริง

ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกมีการปรับเกณฑ์การจดทะเบียนรถโดยสาร 2 ชั้น จากเดิมกำหนดความสูงไว้ที่ 4 เมตร 30 เซนติเมตร เป็นสูงไม่เกิน 4 เมตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร

กรณีการเกิดอุบัติเหตุจากรถโดยสาร 2 ชั้น ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ให้ข้อมูลว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นเพราะรถใช้ความเร็วไม่เหมาะสมกับถนน แม้จะมีการติดจีพีเอสเพื่อกำหนดความเร็วแล้ว แต่ก็ไม่มีระบบเตือนภัยเมื่อความเร็วรถเกินกำหนด อีกทั้งกายภาพของรถบัส 2 ชั้น ไม่เหมาะกับบางเส้นทาง เช่น เส้นทางที่มีความลาดชันยาวต่อเนื่อง ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ โดยในปีที่แล้วเฉพาะรถโดยสาร 2 ชั้น เกิดอุบัติเหตุไปแล้วกว่า 60 ครั้ง

ข้อมูลการจดทะเบียนรถโดยสารจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่า มีรถโดยสาร 2 ชั้น ทั้งหมด 7,199 คัน แบ่งเป็นรถประจำทาง 1,986 คัน และรถไม่ประจำทาง 5,213 คัน ซึ่งในจำนวนของรถไม่ประจำทางส่วนใหญ่ เป็นรถบัสที่ขึ้นทะเบียนก่อน 1 มกราคมปี 56 ซึ่งเป็นปีที่กรมการขนส่งทางบกประกาศให้มีการทดสอบพื้นเอียง ในระดับความเอียงที่ 30 องศา ว่ารถจะยังทรงตัวได้อยู่หรือไม่ เป็นการเปรียบเทียบ ขณะรถเข้าโค้งด้วยความเร็ว ซึ่งรถที่ขึ้นทะเบียนก่อนปี 56 ไม่เคยเข้ารับการทดสอบพื้นเอียง และปัจจุบันยังคงนำมาใช้งานอยู่ ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

นอกจากนี้ ยังพบว่าเบาะที่นั่งผู้โดยสารบางคันไม่แข็งแรง เมื่อเกิดอุบัติเหตุตัวเบาะหลุดจากตัวรถ รวมถึงโครงสร้างโดยเฉพาะชั้นบนของรถ 2 ชั้น ที่มักยุบตัว เมื่อรถพลิกคว่ำ หรือตกเขา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ชมผ่านยูทูบ


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ