ทีมเศรษฐกิจตอกย้ำไทยพร้อมต้อนรับนักลงทุน

เมืองทอง 19 มี.ค. – ทีมเศรษฐกิจร่วมแจงแผนเมกะโปรเจ็กต์ ย้ำไทยพร้อมต้อนรับลงทุน เพื่อก้าวกระโดดครั้งใหญ่  เชื่อไทยเป็นศูนย์กลางความเติบโตการลงทุนใน 15 ปีข้างหน้า 


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในหัวข้อ “เร่งเครื่องขับเคลื่อนไทยสู่มิติใหม่” ว่า ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตช้าลงจากที่เคยเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี เหลือร้อยละ 0-3 เท่านั้น เมื่อรัฐบาลอัดฉีดงบเพียงปีละ 300,000-400,000 ล้านบาทเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากลายเป็นคนแก่ ดังนั้น รัฐบาลจึงมีนโยบายประเทศไทย 4.0 ไทยได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง โดยมียุทธศาสตร์ประเทศ 20 ปีข้างหน้าไทยจะก้าวสู่การเป็นประเทศพัฒนา ประชากรมีรายได้ต่อหัวของประชากรต่อคนต่อปี 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 5-6 ต่อปี ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน้อยต้องอยู่ที่อันดับที่ 15 

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ไทยกำลังเชื่อมโยงสู่อาเซียนและในช่วง 15 ปีข้างหน้าอาเซียนจะเป็นพื้นที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของการลงทุนในโลก โดยไทยอยู่จุดศูนย์กลางของศูนย์กลางของอาเซียน นอกจากนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างวางแผนความร่วมมือกับกลุ่มประเทศ CLMV เป็นการร่วมมือที่รวมไทยด้วย คือ  CLMVT เพื่อเชื่อมโยงทุกด้าน รวมถึงเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนและอินเดีย ทำให้มีตลาดรองรับธุรกิจถึง 3,000 ล้านคน นอกจากนี้ รัฐบาลจะผลักดันให้การเชื่อมต่อภายในกลุ่มประเทศอินโดจีนเป็นไปอย่างไร้พรมแดน โดยขณะนี้กรมศุลกากรอยู่ระหว่างดำเนินการให้ผู้ประกอบการในไทยที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายการผลิตในหลายประเทศในอินโดจีน สามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างสะดวก ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ออกไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดต้นทุน ผสานกับมีการนำเทคโนโลยีใช้ในกระบวนการผลิต พร้อมกันนี้ยังแสวงหาตลาดใหม่ บีโอไอเล็งไปที่ประเทศบังกลาเทศที่เศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 7.2 ต่อปี มีประชากรกว่า 800 ล้านคน


ด้านการเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ ที่ผ่านมาไทยมีการปรับปรุงกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงในเรื่องการออกวีซ่า รวมถึงได้มีการยกระดับความง่ายในการทำธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไทยเป็น 2 ประเทศที่มีการพัฒนาอย่างมาก จากที่เคยอยู่ในดับ 46 ปรับขึ้นล่าสุดเป็นอันดับ 26 ซึ่งได้รับการยกจากธนาคารโลกว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาที่ดีเด่นองจากประเทศบรูไน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ไทยต้องการให้เกิดการลงทุนลักษณะหุ้นส่วนจากต่างประเทศด้วยนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 กำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่ม ประกอบด้วย ยกระดับ 5 อุตสาหกรรมไปสู่การเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพระดับสูง การแปรรูปอาหาร การท่องเที่ยว ส่วน 5 อุตสาหกรรมใหม่ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ทั้งสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการใช้งานในชีวิตประจําวัน อุตสาหกรรมการบินแบบครบวงจร ศูนย์ซ่อมอากาศยาน ชิ้นส่วนอะไหล่ รวมทั้งศูนย์ฝึกการบินบริเวณสนามบินอู่ตะเภา อุตสาหกรรมการแพทย์และการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร อุตสาหกรรม Bio economy โดยเฉพาะพลังงานและเคมีชีวภาพและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล  ขณะที่รัฐบาลเดินหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยผลประโยชน์จะเกิดอย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยจะได้ประโยชน์ทั้งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งไทยจะปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงคมนาคม ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ นับจากนี้ไปจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดดครั้งใหญ่  เพื่อพัฒนาการขนส่งทั้งทางน้ำ ทางอากาศ ทางรถ ทางระบบราง ภายใต้แนวคิด One Seamless Transport หรือการขนส่งไร้รอยต่อ และเป็นระบบคมนาคมแบบเวอร์คลาส โดยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่ง ระบบราง แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ รถไฟขนส่งสินค้า ด้วยการลงทุนพัฒนารถไฟรางคู่ ที่จะพัฒนาเป็นระบบไฟฟ้าต่อไป ส่วนที่ 2 รถไฟความเร็วสูงขนส่งคน  และรถไฟขนส่งคนในกรุงเทพฯ 10 สายทาง ด้านท่าเรือ มีการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือมาบตาพุด จากรองรับตู้สินค้าได้ 7 ล้าน BTUต่อปี เพิ่มเป็น 15 ล้าน BTUต่อปี และพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีเที่ยวบินมากถึงปีละ 1 ล้านเที่ยวบิน และในอนาคตเพิ่มเป็น 3 ล้านเที่ยว ดังนั้น ไทยจึงเป็นศูนย์กลางการบิน พร้อมกันนี้ยังมีการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 ท่าอากาศยานด้วย

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) กล่าวว่า เพื่อเตรียมการด้านแรงงานที่มีทักษะตรงกับความต้องการของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รัฐบาลได้ผลักดันให้นักเรียนอาชีวศึกษาทั้งระดับ ปวส.และ ปวช.มีทักษะพร้อมเข้าทำงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแคลนแรงงานฝีมือ เพราะไทยเป็นแรงงานฝีมือผ่านการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะ  ด้านนักวิจัยไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากผู้ที่จบระดับดอกเตอร์ด้านวิจัยปัจจุบันทำงานกับภาครัฐมากถึง 10,000 คน จึงเป็นโอกาสมากในการเข้ามาทำงานกับเอกชนไทย  พร้อมกันนี้ผู้เข้ามาลงทุนยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษียกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 15 ปี ขณะที่บุคลากรอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บร้อยละ 15 ต่ำที่สุดในอาเซียน เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย