กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – หอการค้าไทยเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ 61 พบว่า ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เหตุจากคนไม่มั่นใจเศรษฐกิจโดยรวม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ 2561 พบว่า ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่สิงหาคม 2560 มาอยู่ที่ระดับ 79.3 จากเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ระดับ 80.0 มาจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ตลอดจนราคาสินค้าเกษตรที่แม้จะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่สินค้าเกษตรส่วนใหญ่อีกหลายรายการยังทรงตัวระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อหลายจังหวัดยังไม่ดีขึ้น รวมทั้งมีความกังวลต่อผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และการปรับขึ้นค่าแรงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 สะท้อนว่าผู้บริโภคยังคงกังวลภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวมากนัก
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ เป็นประเด็นที่ต้องติดตามไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เพราะที่ผ่านมามีปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจทั้งการส่งออกที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีการจับจ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงวันวาเลนไทน์และเทศกาลตรุษจีน แต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับตกลง ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป และเริ่มเห็นการชุมนุมมากขึ้น จากดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ระดับ 83.0 รวมทั้งดัชนีค่าครองชีพที่ยังลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากยังรู้สึกว่าค่าครองชีพสูงขึ้นมากกว่ารายได้
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังโตแบบกระจุกตัวเฉพาะพื้นที่ แต่หากผู้บริโภคเริ่มเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเมือง และรัฐบาลมีการเร่งเบิกจ่ายงบกลางปี และเดินหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC รวมทั้งเร่งดำเนินโครงการไทยนิยมที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวแบบกระจายตัวมากขึ้นภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะทำให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความมั่นใจในการบริโภคสินค้าและบริการมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวในกรอบร้อยละ 4.2-4.6 แต่คงต้องติดตามทุกปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย